77 / 100

การเข้าสู่อาชีพนักปกครองของผม ก็ด้วยภูมิหลัง และแรงบันดาลใจ 4 ประการ คือ นักปกครองคนแรกที่ผมรู้จัก ผู้ว่า ฯ ในดวงใจ นายอำเภอผู้น่าเกรงขาม และคำพยากรณ์ของโหราจารย์ ในตอน (2) นี้ จะขอเล่าถึงแรงบันดาลใจ:ผู้ว่า ฯ ในดวงใจ การสร้างอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล และการจัดงานการแสดงของช้างจังหวัดชัยภูมิ

อนึ่งในบทความ (1) ผมได้กล่าวถึงนักปกครองคนแรกที่ผมรู้จักที่เป็น แรงบันดาลใจ ให้ผม

1.แรงบันดาลใจ: ผู้ว่า ฯ ในดวงใจ

          นักปกครองคนที่ 2 ที่อยู่ในดวงใจของผมตลอดมา คือ นายช่วย นนทะนาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ คนที่ 34  ดำรงตำแหน่ง พ.ศ.2504-2511 รวมระยะเวลายาวนานถึง 7 ปี  ซึ่งนับได้ว่าเป็นการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดเดียวกันที่ยาวนานมาก การที่ท่านสามารถดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิเป็นเวลายาวนานถึง 7 ปี ย่อมแสดงให้เห็นว่า ท่านย่อมเป็นที่รักใคร่ของข้าราชการ พ่อค้า คหบดี และประชาชนอย่างแน่นอน  และต้องมีผลงานดีเด่นหลายอย่าง

เมื่อปี พ.ศ.2504 ซึ่งเป็นปีที่ นายช่วย นนทะนาคร ดำรงตำแหน่่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ผมเพิ่งมีอายุได้ 10 ปี

        การดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดเดียวกันเป็นระยะเวลายาวนานเช่นนี้หาได้ยากในยุคปัจจุบัน บางคนดำรงตำแหน่งได้แค่ 1-2 ปี ก็ต้องย้ายไปดำรงตำแหน่งที่จังหวัดอื่น ซึ่งอาจจะเป็นจังหวัดที่ใหญ่ขึ้น แม้อาจจะเป็นผลดีสำหรับเจ้าตัวที่มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ราชการ แต่ไม่ค่อยเป็นผลดีสำหรับพื้นที่เท่าใดนัก เพราะพอจะเริ่มรู้พื้นที่และประชาชนพอสมควร ก็ไม่มีโอกาสอยู่บริหารงานจังหวัดให้เป็นผลดีแก่พื้นที่และประชาชนเสียแล้ว

2.การสร้างอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล

            ช่วงที่ท่านผู้ว่า ฯ ช่วย นนทะนาคร ได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ผมอายุประมาณ 10-17 ปี ผลงานโดดเด่นของท่านซึ่งอยู่ในใจของชาวชัยภูมิมาจนทุกวันนี้ คือ การสร้างอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ซึ่งเป็นผลงานที่เกิดจากการคิดออกนอกกรอบและความคิดสร้างสรรค์ของท่าน

อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล จังหวัดชัยภูมิ
อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล จังหวัดชัยภูมิ

          เจ้าพ่อพญาแล หรือพระยาภักดีชุมพล เป็นเจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดชัยภูมิ ดำรงตำแหน่งระหว่างปีพ.ศ.2360-2369 ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ฯ รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรี ท่านเป็นผู้สร้างเมืองชัยภูมิขึ้นมา เดิมท่านเป็นคนคนเวียงจันทน์ ได้พามิตรสหายอพยพมาอยู่ที่พื้นที่จังหวัดชัยภูมิในปัจจุบัน

            เจ้าอนุวงศ์แห่งกรุงเวียงจันทน์ได้ตั้งตนเป็นกบถต่อกรุงรัตนโกสินทร์ และได้เดินทัพผ่านมาทางจังหวัดชัยภูมิ บังคับให้ท่านร่วมมือเป็นกบถด้วย ท่านไม่ยอม เพราะถือว่าได้มาพึ่งพระบรมโพธิสมการของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ฯ แล้ว จึงถูกเจ้าอนุวงศ์ จับประหารชีวิตที่บ้านหนองปลาเฒ่า ซึ่งปัจจุบันอยู่ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ และเป็นบริเวณที่ตั้งศาลเจ้าพ่อพญาแลอันที่เป็นเคารพยิ่งของชางจังหวัดชัยภุมิ

การที่เจ้าพ่อพญาแลได้สละชีวิตเพื่อแผ่นดินไทย จึงทำให้เจ้าพอพญาแลเป็นที่เคารพบูชาของชาวชัยภูมิเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น ท่านผู้ว่า ฯ ช่วย  นนทะนาคร จึงต้องการเชิดชูเกียรติเจ้าเมืองคนแรกในฐานะเป็นผู้สร้างเมืองชัยภูมิขึ้นมาให้โดดเด่นขึ้นมามากกว่าเดิม จึงได้หารือกับหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า คหบดี และผู้นำท้องถิ่น ตลอดจนพี่น้องประชาชนชาวชัยภูมิและได้มีความเห็นสอดคล้องกันว่า สมควรจะสร้างอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแลไว้ตรงสี่แยกกลางวงเวียนศูนย์ราชการจังหวัดชัยภูมิ หลังจากนั้นก็ได้ร่วมกันรณรงค์หาเงินสมทบทุนสร้าง ซึ่งรายได้หลักก็ได้มาจากการสร้างเหรียญเจ้าพ่อพญาแล หรืออาจจะกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า ชาวชัยภูมิทั้งจังหวัดได้ร่วมกันบริจาคเงินสร้างอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแลผ่านการบูชาเหรียญเจ้าพ่อพญาแลนั่นเอง

            กรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบและสร้างอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล  โดยมีอาจารย์พิมาน มูลประมุข ศิลปินแห่งชาติ เป็นผู้ออกแบบ การก่อสร้างได้แล้วเสร็จเมื่อปีพ.ศ.2509 และได้ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2510

ทำเลที่ประดิษฐานอนุสาวรีย์เจ้าพ่่อพญาแล นับว่าเด่นสง่า เพราะตั้งอยู่่บริเวณวงเวียนกลางเมืองตรงสี่แยกถนนชัยภูมิ-กรุงเทพ ฯ เมื่อใครเดินทางผ่าน ก็มักจะยกมือไหว้แสดงความเคารพเสมอ หรืออาจจะเรียกว่า เป็นการปรับฮวงจุ้ยจังหวัดชัยภูมิให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นต่อไปเรื่อย ๆ

          หลังจากนั้น จังหวัดชัยภูมิก็ได้จัดให้มีงานประจำปี ชื่อว่า งานฉลองอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาและงานกาชาดประจำปี ระหว่างวันที่ 12-20 มกราคม เป็นประจำทุกปี นับตั้งแต่ปี 2510 เป็นต้นมา

3.การจัดงานการแสดงของช้างจังหวัดชัยภูมิ

          เดิมจังหวัดชัยภูมิเคยมีการจัดงานการแสดงของช้างเช่นเดียวกับจังหวัดสุรินทร์  ซึ่งได้ริเริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยท่านผู้ว่า ฯ ช่วย นนทะนาคร  เมื่อได้เห็นข่าวแล้ว ผมรู้สึกตื่นเต้นและยินดีมากที่บ้านเกิดของผม สามารถจัดงานการแสดงของช้างได้

ภาพส่วนหนึ่งของงานช้างคืนถิ่น ในงานฉลองอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ประจำปี 2563 ณ บ้านค่ายหมื่นแผ้ว ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมือง ฯ จังหวัดชัยภูมิ
ภาพส่วนหนึ่งของงานช้างคืนถิ่น ในงานฉลองอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ประจำปี 2563 ณ บ้านค่ายหมื่นแผ้ว ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมือง ฯ จังหวัดชัยภูมิ

บางทีท่านผู้อ่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมจังหวัดชับภูมิในอดีตจึงมีการเลี้ยงช้างมาก คำตอบก็คือ ในสมัยโบราณจังหวัดชัยภูมิเป็นจังหวัดหนึ่งที่หลวงได้มอบหมายให้เลี้ยงช้างไว้ใช้เป็นสัตว์พาหนะและเตรียมไว้ใช้ในศึกสงคราม ต่อมาบ้านเมืองมีความเจริญมากขึ้น ความจำเป็นที่จะใช้ประโยชน์จากช้างในการเป็นสัตว์พาหนะ และการสงครามก็ลดลงหรือหมดไป คนเลี้ยงช้างจังหวัดชัยภูมิก็จำเป็นต้องนำช้างออกไปทำมาหากินในจังหวัดอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เมื่อถึงเวลาก็นำช้างกลับไปเยี่ยมบ้านปีละหน

            ทุกวันนี้ ท่านอาจไม่ได้ยินข่าวการจัดงานการแสดงของช้างของจังหวัดชัยภูมิ แต่มิได้หมายความว่า การจัดงานดังกล่าว ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว ความจริงยังมีอยู่ โดยได้จัดรวมกับงานฉลองอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแลและงานกาชาดประจำปี นั่นแหละ เรียกชื่อ งานช้างคืนถิ่น  กินพาแลง

การที่ไม่มีข่าวการจัดงานการแสดงของช้างของจังหวัดชัยภูมิอย่างเอิกเกริกเหมือนอย่างการจัดงานแสดงของช้างจังหวัดสุรินทร์ ผมเข้าใจว่า ทางองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยงหรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน ไม่ต้องการให้จังหวัดชัยภูมิและจังหวัดสุรินทร์จัดงานการแสดงของช้างแข่งกันเอง โดยขอให้หวัดชัยภูมิหลีกทางให้จังหวัดสุรินทร์เป็นเจ้าภาพหลัก เพื่อให้จังหวัดสุรินทร์สามารถจัดงานให้ได้โดดเด่น เพราะองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวในอดีตหรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน ต้องใช้งบประมาณส่วนหนึ่งช่วยในการประชาสัมพันธ์ในการจัดงานให้เป็นงานใหญ่ระดับโลก

            เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายอำเภอเมืองชัยภูมิ ผมรับคำสั่งจังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นประธานกรรมการจัดงานช้างคืนถิ่น กินพาแลง ทั้งนี้เพราะบ้านค่ายหมื่นแผ้ว ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมืองชัยภูมิเป็นถิ่นที่อยู่ของเจ้าของช้างหลายเชือกที่ได้ออกไปทำมาหากินในจังหวัดต่าง ๆ พอถึงเวลางานช้างคืนถิ่นพวกเขาก็ได้โอกาสกลับมาเยี่ยมภูมิลำเนาปีละครั้ง เพื่อนำช้างถวายคาราวะแด่เจ้าพ่อพญาแล ณ อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ คนที่ 34 นายช่วย นนทะนาคร เป็นผู้นำริเริ่มสร้างไว้

            หน้าที่่ของผมก็เพียงแต่ออกไปดูแลความเรียบร้อยที่บ้านค่ายหมื่นแผ้ว  ส่วนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เป็นหน้าที่ขององค์การบริหาร่วนจังหวัดชัยภูมิรับผิดชอบ

4.สรุป

ผู้ว่า ฯ ในดวงใจของผมก็คือ นายช่วย นนทะนาคร ผู้ว่าราชการจัหวัดชัยภูมิคนที่ 34 ดำรงตำแหน่งระหว่างปีพ.ศ. 2504-2511 เนื่องจากท่านได้ใช้ความคิดออกนอกรอบและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ให้เป็นประโยชน์แก่จังหวัดชัยภูมิตราบเท่าทุกวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล เจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดชัยภุมิไว้ทีศูนย์กลางตัวเมือง และการริเริ่มให้มีการจัดงานการแสดงของช้างของจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งปัจจุบันได้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานฉลองอนุสาวรย์เจ้าพ่อพญาและงานกาชาดจังหวัดชัยภูมิประจำปี นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2510 จนกระทั่งทุกวันนี้

หากท่านเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขจังหวัดชัยภูมิหรือเป็นลูกหลานเจ้าพ่อพญาแล ท่านคงจะชื่นชมท่านผู้ว่า ฯ ช่วย นนทะนาคร เช่นเดียวกับผมนะ

ขอบคุณครับ

ดร.ชา 25/05/20

Dr.Char

Mr.Chartri DireksriMr.Chartri Direksriดร.ชาตรี ดิเรกศรี (Dr.Chartri Direksri) เคยรับราชการเป็นนักปกครองในตำแหน่งปลัดอำเภอตรี เมื่อปีพ.ศ.2517 ผ่านการดำรงตำแหน่งนายอำเภอหลายอำเภอ เป็นปลัดจังหวัด และเกษียณอายุราชการในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อปีพ.ศ.2554 นอกจากนี้ยังเคยเป็นอาจารย์ผู้บรรยายพิเศษ หลักสูตรปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นเวลา 9 ปี

RELATED ARTICLES

หมอ พยายาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาคนติดเชื้อโรคโควิด-19

การบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉินกรณีโรคโควิด-19: ความรุนแรงของสถานการณ์ และแนวคิดในการแก้ปัญหา(1)

Share on Social Media facebook email 68 / 100 Powered by Rank Math SEO การมองการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉินกรณรีโรคโควิด-19 ด้วยประสบการณ์การบริหารเพื่อแก้ปัญหาโรคไข้หวัดนก ปีพ.ศ.2547  (1) อาจมองได้หลายมิติ ในตอนแรกนี้ จะขอกล่าวถึงมิติด้านความรุนแรงของสถานการณ์ และแนวคิดในการแก้ปัญหา 1.ความรุนแรงของสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด อาจมองความรุนแรงของสถานการณ์โรควิด-19 ได้เป็น 2 ระดับโลก และความรุนแรงของสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย             1.1ความรุนแรงของสถานการณ์โรคโควิด-19 ระดับโลก           ความรุนแรงของสถานการณ์โรคโควิด-19 (Covid-19) หรือโรคไวรัสโคโรนา (Virus Corona) ถือได้ว่า เป็นโรคระบาดจากคนไปสู่คนและแพร่กระจายไปทั่วโลก โดยเริ่มต้นจากประเทศจีนไปสู่อีกหลายประเทศอย่างรวดเร็วทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อ…

พระพุทธเจ้า มีคาถารักษาโรคเรื้อรังได้หรือไม่ (16)(New***) 2

พระพุทธเจ้า มีคาถารักษาโรคเรื้อรังได้หรือไม่ (16)(New***)

Share on Social Media facebook email 90 / 100 Powered by Rank Math SEO “พระพุทธเจ้า มีคาถารักษาโรคเรื้อรังได้หรือไม่” นับเป็นบทความลำดับที่ 16 ของหมวด 7 เรื่องเล่า ประสบการณ์ปฏิบัติธรรม เพื่อคลายทุกข์ มีเนื้อหาประกอบด้วย ความนำ  พระพุทธเจ้ามีหลักคำสอนว่าอย่างไร   ประเภทของโรค โรคเรื้อรัง โรคเรื้อรังที่น่าสนใจ แนวทางในการรักษาโรคเรื้อรัง คาถารักษาโรคทุกโรคของพระพุทธเจ้า ทำไมจึงควรนำคาถานี้ไปใช้ในการรักษาโรคเรื้อรัง ประสบการณ์ในการนำคาถานี้มาใช้ ขั้นตอนและแนวทางในการนำคาถานี้ไปใช้ การบริกรรมคาถา การอธิษฐานจิต การสั่งจิตใต้สำนึก การสร้างมโนภาพ  ตัวอย่างการอธิษฐานจิตรวมทุกโรค ตัวอย่างการอธิษฐานจิตเฉพาะโรค สรุป ถาม-ตอบสนุก กับดร.ชา 369          …

ไต้หวัน มีความเจริญมากน้อยเพียงใด (12) 4

ไต้หวัน มีความเจริญมากน้อยเพียงใด (12)

Share on Social Media facebook email 87 / 100 Powered by Rank Math SEO “ไต้หวัน มีความเจริญมากน้อยเพียงใด” เป็นบทความลำดับที่ 12 ของหมวด 14 เรื่องเล่า ประเทศเอเชียตะวันออก มีหัวข้อ ดังนี้ ความนำ  ประวัติความเป็นมาของไต้หวันโดยย่อ ตำแหน่งที่ตั้งและขนาดพื้นที่ ประชากร (จำนวน เชื้อชาติ และศาสนา) การปกครอง เมืองหลวง ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ  ตัวชี้วัดความเจริญทางเศรษฐกิจ ตัวชี้วัดความเจริญในด้านอื่น ๆ   สรุป ถาม-ตอบสนุก กับดร.ชา 36           “ไต้หวันหรือจีนไทเป เป็นประเทศที่ได้ชื่อว่า เป็นเสือตัวหนึ่งในบรรดาสี่ตัวของเอเชีย…

เกาหลีเหนือ เป็นประเทศเผด็จการสมบูรณ์แบบ (11) 5

เกาหลีเหนือ เป็นประเทศเผด็จการสมบูรณ์แบบ (11)

Share on Social Media facebook email 87 / 100 Powered by Rank Math SEO “เกาหลีเหนือ เป็นประเทศเผด็จการสมบูรณ์แบบ” เป็นบทความลำดับที่ 11 ของหมวด 14 เรื่องเล่า ประเทศเอเชียตะวันออก  มีหัวข้อประกอบด้วย ความนำ ตำแหน่งที่ตั้งของเกาหลีเหนือ  ขนาดพื้นที่ ประชากร ประวัติความเป็นมา การเมืองการปกครอง  อุดมการณ์ของชาติ ตระกูลคิม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ สิทธิมนุษยชน การทหาร สรุป ถาม-ตอบสนุก กับดร.ชา 369 “ประเทศเกาหลีเหนือ แม้เป็นประเทศขนาดเล็ก มีประชากรไม่มาก และมีฐานะยากจน แต่ก็สามารถเป็นประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ และมีความแข็งแกร่งด้านการทหาร…

2 COMMENTS

  1. หนูก็มีบุคคลเป็นต้นแบบ เหมือนกันค่ะ ต้องการพูดได้15ภาษาเหมือนเด็กชายชาวกัมพูชา เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อ20ปีที่แล้ว หนูเรียนจบจากสถาบันราชภัฏ แล้วได้ไปสมัครงานโรงแรมตามหนังสือสมัครงาน ก่อนจะเข้าไปสมัครงานห้องบุคคล ยามพูดว่าจบมาจากราชภัฏละสิจึงไม่มีงานทำ ประโยคนี้จึงฝังใจจนทุกวันนี้ ฉันต้องพูดได้หลายภาษาให้ได้

    1. การมีบุคคลเป็นต้นแบบถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ถ้าคิดจะทำให้ได้อย่างบุคคลต้นแบบ เราควรจะประเมินความเป็นไปได้สำหรับตัวเราเสียก่อน
      บางอย่างเป็นเรื่องง่ายสำหรับบางคน แต่ก็อาจจะเป็นเรืองยากสำหรับอีกบุคคลหนึ่ง ผมชอบประโยคสนทนาภาษาอังกฤษที่พวกเราเคยเรียนกันมาเมื่อชั้นประถม
      ” It is easy for you to do that, but it is difficult for me.”
      ผมไม่อยากให้คุณเพ็ญสร้างฝันที่ยากจะเป็นไปได้สำหรับตัวเรา ส่วนจะมีใครพูดจาดูหมิ่นดูแคลนเราอย่างไร อย่าไปให้ความสำคัญมาก เราต้องรู้ตัวเราว่าอยู่ ณ จุดใด

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Share on Social Media
%d bloggers like this: