70 / 100

หัวข้อที่ผมจะนำมาเล่าประกอบด้วย ภูมิหลัง แนวคิดเบื้องต้น ประเภทของจิต การวิเคราะห์ปัญหาและการกำหนดเป้าหมาย  หลักการเบื้องต้นของการฝึกสั่งจิตใต้สำนึก วัตถุประสงค์และประโยชน์ของการสั่งจิตใต้สำนึก การสั่งจิตใต้สำนึกจากายนอก การสั่งจิตใต้สำนึกจากภายใน การประเมินผลและการปรับเป้าหมาย สรุปและข้อคิดเห็น โดยในบทความ (2) ได้กล่าวถึงประสบการณ์การสั่งจิตใต้สำนึก:แนวคิดเบื้องต้นและบทความ (4) เป็นการเล่าถึงหลักการเบื้องต้นของการฝึกสั่งจิตใต้สำนึก

สำหรับบทความ (5) จิตใต้สำนึก-การออกคำสั่งจากภายนอก จะกล่าวถึง ความหมายของการสั่งจิตใต้สำนึกจากภายนอก การออกคำสั่งผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า ปัญหาอุปสรรคของการออกคำสั่งจากภายนอก และสรุปและข้อคิดเห็น

การสั่งจิตใต้สำนึกจากภายนอก

1.ความหมายของการสั่งจิตใต้สำนึกจากภายนอก

          การสั่งจิตใต้สำนึกจากภายนอก หมายถึง การที่มีสิ่งภายนอกมากระทบประสาทสัมผัสทั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย ของเรา  และจิตสำนึกของเราได้สั่งผ่านลงไปยังใต้สำนึกบ่อย ๆ  จนจิตใต้สำนึกยอมรับว่า สิ่งที่จิตสำนึกสั่งเข้าไปบ่อย ๆ เป็นคำสั่งที่จะต้องจดจำไว้เป็นระบบอัตโนมัติของจิตตามที่จิตสำนึกต้องการจะให้เป็น

 จิตสำนึกสั่งผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้าไปยังจิตใต้สำนึกบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ จนจิตใต้สำนึกยอมรับ และสร้างระบบอัตโนมัติของจิตขึ้นมา
จิตสำนึกสั่งผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้าไปยังจิตใต้สำนึกบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ จนจิตใต้สำนึกยอมรับ และสร้างระบบอัตโนมัติของจิตขึ้นมา

            การที่ตาได้เห็น หูได้ยิน จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส และกายได้สัมผัสหรือกระทำ สิ่งใดบ่อย ๆ เท่ากับเป็นการออกคำสั่งของจิตสำนึกที่มีต่อจิตใต้สำนึกให้จดจำและสร้างระบบอัตโนมัติของจิตขึ้นมา หากเราได้ประสบสิ่งที่มากระทบประสาทสัมผัสทั้งห้าเหมือนเดิมหรือคล้าย ๆ เดิม จิตใต้สำนึกจะทำงานโดยอัตโนมัติด้วยการสั่งให้ร่ายกายตอบสนองในลักษณะเดียวกันที่เคยตอบสนองทุกครั้ง

เด็กน้อยกำลังใช้สายตามองดูอะไรบางอย่าง
เด็กน้อยกำลังใช้สายตามองดูอะไรบางอย่าง

2.การออกคำสั่งผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า

          การที่คนเราสามารถรับรู้สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ภายนอก ก็ด้วยอาศัยการทำหน้าที่ของประสาทสัมผัสทั้งห้า คือ เราใช้ตาเพื่อมองดูวัตถุ เราใช้หูเพื่อฟังเสียง เราใช้จมูกเพื่อดมกลิ่น เราใช้ลิ้นเพื่อลิ้มรส และเราใช้กายเพื่อสัมผัสหรือกระทำ

            เพื่อความชัดเจน กรุณาดูตัวอย่างประกอบ ดังนี้

            2.1 การฝึกซ้อมกีฬา

            การเล่นกีฬา หากมีเป้าหมายต้องการเป็นผู้ชนะในการแข่งขัน นักกีฬาจำเป็นต้องหมั่นฝึกซ้อม

โดยต้องใช้ประสาทสัมผัสในการฝึกซ้อมอย่างประสานสัมพันธ์สอดคล้องกัน คือ

            ใช้สายตาดูตัวอย่างที่โค้ชแสดงให้ดู

             ใช้หูฟังสิ่งที่โค้ชสอน  และใช้กายฝึกปฏิบัติตามคำสอนชองโค้ช

การเล่นกีฬา หากต้องการชนะ ก็ต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก เพือให้จิตใต้สำนึกสร้างระบบอัตโนมัติขึ้นมาให้พร้อมที่จะทำงานได้ทันทีเมือถึงเวลา
การเล่นกีฬา หากต้องการชนะ ก็ต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก เพือให้จิตใต้สำนึกสร้างระบบอัตโนมัติขึ้นมาให้พร้อมที่จะทำงานได้ทันทีเมือถึงเวลา

            การใช้สายตาดู การใช้หูฟัง และการใช้การฝึกซ้อม บ่อย ๆ ล้วนเป็นการออกคำสั่งของจิตสำนึกไปยังจิตใต้สำนึกให้จดจำ เพื่อสร้างระบบอัตโนมัติของจิต หรือการสร้างทักษะในการเล่นกีฬาชนิดนั้น เมื่อเวลาแข่งขันจิตใต้สำนึกจะเป็นผู้สั่งให้ร่ายกายของเราปฏิบัติโดยอัตโนมัติ  ยิ่งฝึกซ้อมมากเท่าใด ระบบอัตโนมัติของจิตก็ยิ่งจะมีประสิทธิภาพมากเท่านั้น  เพราะเวลาลงแข่งขันจริง จิตสำนึกมีเวลาคิดบ้างเล็กน้อย ที่เหลือนอกนั้นเป็นเรื่องของจิตใต้สำนึกหรือระบบอัตโนมัติของจิตเป็นผู้ดำเนินการ

            2.2 การฝึกซ้อมร้องเพลงเพื่อเข้าประกวดชิงรางวัล

            ปัจจุบันมีทีวีหลายช่องจัดให้มีการประกวดร้องเพลงเพื่อชิงรางวัล เช่น ทีวีช่อง 31 มีรายการดวลเพลงชิงทุนทุกวันจันทร์- เสาร์ ช่วงเวลา 18.00-19.00 กติกาก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก หากคณะกรรมการตัดสินใจให้ผู้เข้าประกวดคนใดคนหนึ่งในจำนวนสองคนเป็นผู้ชนะก็จะได้เป็นแชมป์ในครั้งนั้น หลังจากนั้นก็จะได้หมุนวงล้อหารางวัล

            บางคนเก่งมากชนะยี่สิบครั้งรวด หากใครชนะยี่สิบครั้งรวดจะได้รางวัลเพิ่มเป็นสองเท่า เช่น หมุน

วงล้อยี่สิบครั้งได้เงินรางวัลรวม 350,000 บาท เงินรางวัลทั้งหมดที่ผู้ชนะ 20 ครั้งรวดจะได้รับ คือ700,000 บาท เป็นต้น

            ผู้ประกวดคนใดสามารถชนะได้ 20 ครั้งรวด ต้องยอมรับว่าเก่งมาก เพราะเขาต้องร้องเพลงให้ได้ถึง 20 เพลง โดยต้องร้องได้สด ๆ ไม่มีเนื้อเพลงให้ดูเหมือนร้องคาราโอเกะ และต้องร้องชนะคู่แข่งทุกครั้ง

การเป็นนักร้อง ต้องหมั่นฝึกซ้อม เพื่อให้จิตใต้สำนึกสร้างระบบอัตโนมัติของจิต เมื่อถึงเวลาจะทำให่้สามารถร้องเพลงได้อย่างไพเราะ ถูกจังหวะ เข้าถึงอารมณ์เพลง และเสียงมีพลัง
การเป็นนักร้อง ต้องหมั่นฝึกซ้อม เพื่อให้จิตใต้สำนึกสร้างระบบอัตโนมัติของจิต เมื่อถึงเวลาจะทำให่้สามารถร้องเพลงได้อย่างไพเราะ ถูกจังหวะ เข้าถึงอารมณ์เพลง และเสียงมีพลัง

            ฉะนั้น ผู้ที่ชนะการประกวด 20 ครั้งรวด เขาต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก การฝึกซ้อมก็คือการที่จิตสำนึกออกคำสั่งจิตใต้สำนึกให้สร้างระบบอัตโนมัติจดจำการร้องเพลง 20 เพลง ในการแข่งขัน 20 วัน

            การฝึกร้องตามต้นฉบับ คือ การใช้หูฟังเพลงให้จับจังหวะและอารมณ์เพลงได้ รวมทั้งเป็นการจดจำเนื้อเพลงให้ได้ทั้งหมด

เด็กน้อยกำลังตั้งใจใช้หูฟังเสียงอะไร         บางอย่าง
เด็กน้อยกำลังตั้งใจใช้หูฟังเสียงอะไร บางอย่าง

            การแสดงทีท่าประกอบการร้องเพลง คือการฝึกการเคลื่อนไหวร่างกายให้เข้ากับจังหวะและ

อารมณ์เพลง

          การฝึกซ้อมอย่างหนักเท่านั้นที่จะทำให้ผู้เข้าประกวดชนะการแข่งขันได้ในแต่ละครั้ง เพราะ 

 ระบบอัตโนมัติของจิตจะมีคุณภาพสูงและสามารถสั่งการให้ร่างกายตอบสนองได้เป็นอย่างดียิ่ง

        2.3 การสวดมนต์ทำวัตรเช้า-วัตรเย็น

วัดใดที่เจ้าอาวาสเข้มแข็งและเคร่งครัดในพระธรรมวินัย ย่อมจะพาพระภิกษุสามเณรในวัดให้สวด

มนต์ทำวัตรเช้า-ทำวัตรเย็นทุกวัน  การสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น เป็นประจำ เป็นการสั่งจิตใต้สำนึกผ่านทางเสียงสวดมนต์ของพระภิกษุสามเณรแต่ละรูปและพระภิกษุสามเณรรูปอื่น ๆ ที่อยู่ร่วมกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งจะทำให้จิตใต้สำนึกของพระภิกษุสามเณรในวัดนั้นยึดมั่นในพระธรรมวินัยไม่เสื่อมคลาย

        2.4 การกล่าวคำปฏิญาณตนต่อหน้าเสาธงทุกวัน

        การกล่าวคำปฏิญาณตนต่อหน้าเสาธงทุกวันของนักเรียนหรือผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ ของทางราชการที่ผู้เข้ารับการอบรมอย่างอยู่กินนอนด้วยกันด้วยเสียงอันดังอย่างพร้อมเพรียงกัน เป็นวิธีการอย่างหนึ่งในการปลูกจิตใต้สำนึกให้นักเรียนหรือผู้เข้ารับอบรมหลักสูตรต่าง ๆ ของทางราชการให้มีความยึดมั่นในอุดมคติหรือปรัชญาชองสถานศึกษาหรือหน่วยงาน ซึ่งเป็นที่นิยมปฏิบัติกันทั่วไป เช่น การอมรมหลักสูตรโรงเรียนนายอำเภอ ของวิทยาลัยการปกครอง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น

       2.5 การท่องด้วยเสียงอันดังก่อนนอนและหลังตื่นนอน

            หากเราต้องการจะสมปรารถนาในสิ่งใด เราอาจใช้วิธีท่องด้วยเสียงอันดังพอประมาณที่จะทำให้เราได้ยินเสียงตนเอง วันละ 2 เวลา คือ ก่อนนอน และหลังตื่นนอนใหม่ ๆ ซึ่งผมได้เล่าให้ท่านฟังเบื้องต้นแล้วในบทความ (1) ประสบการณ์สั่งจิตใต้สำนึกฯ: ภูมิหลัง

            เหตุที่ต้องท่องด้วยเสียงอันดังก็เพื่อให้ตัวเราได้ยินเสียงของตัวเราได้อย่างชัดเจน  และด้วยการท่องดังกล่าวประกอบการสร้างมโนภาพถึงการบรรลุเป้าหมายที่เรากำหนดไว้ จะทำให้เกิดพลังจากภายในหรือพลังจากจิตใต้สำนึกผลักดันให้เราเกิดความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เราประสบความสำเร็จให้จงได้ ซึ่งผมได้เล่าให้ท่านฟังแล้วในบทความ (2) ประสบการณ์สั่งจิตใต้สำนึกฯ : แนวคิดเบื้องต้น

3.ปัญหาอุปสรรคของการสั่งจิตใต้สำนึกจากภายนอก

          การสั่งจิตใต้สำนึกจากภายนอกด้วยวิธีการท่องด้วยเสียงอันดัง อาจจะมีปัญหาอยู่บ้างกรณีที่เรายังไม่อยากให้ใครรู้ว่า เรากำลังมีเป้าหมายอะไร จนกว่าเราจะบรรลุเป้าหมายแล้ว เพราะถ้ามีบุคคลอื่นรู้เขาอาจจะแทรกแซงการฝึกของเราด้วยการใช้คำพูดบางอย่างที่บั่นทอนกำลังใจหรือความเชื่อมั่นของเรา  แต่ถ้าเราไม่ท่องด้วยเสียงอันดังพลังจากภายในก็จะไม่เกิด ดังนั้น จึงควรเลือกเวลาและสถานที่ที่จะท่องด้วยเสียงอันดังที่เราคิดว่า น่าจะปลอดภัยจากการถูกแทรกแซงความฝันของเราจากบุคคลอื่น

4.สรุปและข้อคิดเห็น

          การสั่งจิตใต้สำนึกอาจสั่งจากภายนอกตัวเราได้ กล่าวคือ เมื่อมีสิ่งมากระทบประสาทสัมผัสทั้งห้าขอเรา ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย อยู่บ่อย ๆ จิตสำนึกจะสั่งผ่านลงไปที่จิตใต้สำนึกให้จดจำและสร้างระบบอัตโนมัติของจิตขึ้นมา

            การแข่งขันกีฬา การประกวดร้องเพลง ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนย่อมมีเป้าหมายอยู่ที่การเอาชนะคู่แข่งขัน ดังนั้น ผู้เข้าแข่งขันจึงต้องมีการฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อให้จิตใต้สำนึกยอมรับคำสั่งของจิตสำนึกที่สั่งผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้าและสร้างระบบอัตโนมัติของจิตขึ้นมาให้พร้อมจะปฏิบัติงานได้ทันทีเมื่อถึงเวลา

            การท่องด้วยเสียงอันดังก่อนนอนและหลังตื่นเป็นประจำทุกวันจนกว่าจะบรรลุเป้หมาย นับเป็นวิธีการที่สะดวกในการฝึก และทรงพลังเป็นอย่างมากในการสั่งจิตใต้สำนึกของเราให้จดจำในสิ่งที่เรากำหนดไว้เป็นเป้าหมายที่จะบรรลุภายในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง

             หวังว่า ท่านผู้อ่านคงพอจะเข้าใจหลักการและแนวทางในการออกคำสังจิตใต้สำนึกจากภายนอกนะครับ

            พบกันใหม่ในบทความต่อไป “ การออกคำสั่งจิตใต้สำนึกจากภายใน”

          ดร.ชา

          4/07/20

“หากบทความนี้ถูกใจท่าน และท่านมีความประสงค์จะสนับสนุนให้บทความนี้แพร่หลายออกไป กรุณามีส่วนร่วมด้วยการกดไลค์ กดแชร์ไปยังกลุ่มบุคคลหรือบุคคลในเครือข่ายของท่าน หรือแสดงความคิดเห็น รวมทั้งสมัครเป็นผู้ติดตามได้ตามอัธยาศัย และขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย

         กรุณาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเพจ การสมัครเป็นผู้ติดตามและการมีส่วนร่วม ของเว็บไซต์นี้ คือ รวมเรื่องเล่า สนุกและสร้างสรรค์ ชุดประสบการณ์นักปกครองที่น่าสนใจ (https://tridirek.com)

Dr.Char

Mr.Chartri DireksriMr.Chartri Direksriดร.ชาตรี ดิเรกศรี (Dr.Chartri Direksri) เคยรับราชการเป็นนักปกครองในตำแหน่งปลัดอำเภอตรี เมื่อปีพ.ศ.2517 ผ่านการดำรงตำแหน่งนายอำเภอหลายอำเภอ เป็นปลัดจังหวัด และเกษียณอายุราชการในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อปีพ.ศ.2554 นอกจากนี้ยังเคยเป็นอาจารย์ผู้บรรยายพิเศษ หลักสูตรปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นเวลา 9 ปี

RELATED ARTICLES

หมอ พยายาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาคนติดเชื้อโรคโควิด-19

การบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉินกรณีโรคโควิด-19: ความรุนแรงของสถานการณ์ และแนวคิดในการแก้ปัญหา(1)

Share on Social Media facebook email 68 / 100 Powered by Rank Math SEO การมองการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉินกรณรีโรคโควิด-19 ด้วยประสบการณ์การบริหารเพื่อแก้ปัญหาโรคไข้หวัดนก ปีพ.ศ.2547  (1) อาจมองได้หลายมิติ ในตอนแรกนี้ จะขอกล่าวถึงมิติด้านความรุนแรงของสถานการณ์ และแนวคิดในการแก้ปัญหา 1.ความรุนแรงของสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด อาจมองความรุนแรงของสถานการณ์โรควิด-19 ได้เป็น 2 ระดับโลก และความรุนแรงของสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย             1.1ความรุนแรงของสถานการณ์โรคโควิด-19 ระดับโลก           ความรุนแรงของสถานการณ์โรคโควิด-19 (Covid-19) หรือโรคไวรัสโคโรนา (Virus Corona) ถือได้ว่า เป็นโรคระบาดจากคนไปสู่คนและแพร่กระจายไปทั่วโลก โดยเริ่มต้นจากประเทศจีนไปสู่อีกหลายประเทศอย่างรวดเร็วทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อ…

พระพุทธเจ้า มีคาถารักษาโรคเรื้อรังได้หรือไม่ (16)(New***) 2

พระพุทธเจ้า มีคาถารักษาโรคเรื้อรังได้หรือไม่ (16)(New***)

Share on Social Media facebook email 90 / 100 Powered by Rank Math SEO “พระพุทธเจ้า มีคาถารักษาโรคเรื้อรังได้หรือไม่” นับเป็นบทความลำดับที่ 16 ของหมวด 7 เรื่องเล่า ประสบการณ์ปฏิบัติธรรม เพื่อคลายทุกข์ มีเนื้อหาประกอบด้วย ความนำ  พระพุทธเจ้ามีหลักคำสอนว่าอย่างไร   ประเภทของโรค โรคเรื้อรัง โรคเรื้อรังที่น่าสนใจ แนวทางในการรักษาโรคเรื้อรัง คาถารักษาโรคทุกโรคของพระพุทธเจ้า ทำไมจึงควรนำคาถานี้ไปใช้ในการรักษาโรคเรื้อรัง ประสบการณ์ในการนำคาถานี้มาใช้ ขั้นตอนและแนวทางในการนำคาถานี้ไปใช้ การบริกรรมคาถา การอธิษฐานจิต การสั่งจิตใต้สำนึก การสร้างมโนภาพ  ตัวอย่างการอธิษฐานจิตรวมทุกโรค ตัวอย่างการอธิษฐานจิตเฉพาะโรค สรุป ถาม-ตอบสนุก กับดร.ชา 369          …

ไต้หวัน มีความเจริญมากน้อยเพียงใด (12) 4

ไต้หวัน มีความเจริญมากน้อยเพียงใด (12)

Share on Social Media facebook email 87 / 100 Powered by Rank Math SEO “ไต้หวัน มีความเจริญมากน้อยเพียงใด” เป็นบทความลำดับที่ 12 ของหมวด 14 เรื่องเล่า ประเทศเอเชียตะวันออก มีหัวข้อ ดังนี้ ความนำ  ประวัติความเป็นมาของไต้หวันโดยย่อ ตำแหน่งที่ตั้งและขนาดพื้นที่ ประชากร (จำนวน เชื้อชาติ และศาสนา) การปกครอง เมืองหลวง ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ  ตัวชี้วัดความเจริญทางเศรษฐกิจ ตัวชี้วัดความเจริญในด้านอื่น ๆ   สรุป ถาม-ตอบสนุก กับดร.ชา 36           “ไต้หวันหรือจีนไทเป เป็นประเทศที่ได้ชื่อว่า เป็นเสือตัวหนึ่งในบรรดาสี่ตัวของเอเชีย…

เกาหลีเหนือ เป็นประเทศเผด็จการสมบูรณ์แบบ (11) 5

เกาหลีเหนือ เป็นประเทศเผด็จการสมบูรณ์แบบ (11)

Share on Social Media facebook email 87 / 100 Powered by Rank Math SEO “เกาหลีเหนือ เป็นประเทศเผด็จการสมบูรณ์แบบ” เป็นบทความลำดับที่ 11 ของหมวด 14 เรื่องเล่า ประเทศเอเชียตะวันออก  มีหัวข้อประกอบด้วย ความนำ ตำแหน่งที่ตั้งของเกาหลีเหนือ  ขนาดพื้นที่ ประชากร ประวัติความเป็นมา การเมืองการปกครอง  อุดมการณ์ของชาติ ตระกูลคิม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ สิทธิมนุษยชน การทหาร สรุป ถาม-ตอบสนุก กับดร.ชา 369 “ประเทศเกาหลีเหนือ แม้เป็นประเทศขนาดเล็ก มีประชากรไม่มาก และมีฐานะยากจน แต่ก็สามารถเป็นประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ และมีความแข็งแกร่งด้านการทหาร…

6 COMMENTS

  1. การสั่งจิตใต้สำนึก ด้วยกก่รใช้โค้ช ถ้าเจอคนที่มีจรรยาบรรณพานำทางในการใช้คำพูด ถือว่าโชคดีค่ะ
    แต่ถ้าเจอโค้ชมาในรูปแบบ ใส่ข้อมูลให้บริจาคทรัพย์สิน เหมือนที่หนูเคยเจอแย่ค่ะ
    ปัจจุบันนี้ โค้ชคนไหนมีชื่อเสียง มักจะมีบุคคลอื่นขุดอดีต หรือการออกมาแฉ สิ่งที่เคยทำในอดีตค่ะ

    1. คนเราก็อย่างนี้ ชีวิตมีขึ้นมีลง มีคนรักมีคนเกลียด ดังน้ัน ก็ขอให้ยึดคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า “อย่าตั้งตนอยู่ในความประมาท”

  2. น่าสนใจค่ะอาจารย์ เพราะมันคือชีวิตประจำวันเราค่ะ แต่คนทั่งไปไม่ได้ประมวลค่ะ

  3. ได้ฟังวีดีโอ ประกอบแล้ว คิดถึงสมัยเรียน ป โทค่ะ

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Share on Social Media
%d bloggers like this: