ประวัติ จีน ยุคใหม่ เป็นบทความลำดับที่ 3 ของหมวด 14 เรื่องเล่า ประเทศเอเชียตะวันออก โดยจะกล่าวถึง ความนำ ประวัติ จีน ยุคราชวงศ์ชิง ก่อนจะถึงจีนยุคใหม่ ยุคสาธารณรัฐจีน ยุคสาธารณรัฐประชาชนจีน สรุป และถาม-ตอบ สนุก กับดร.ชา 369

Table of Contents
1.ความนำ
ในบทความที่แล้ว ประวัติ จีน ก่อนจีนยุคใหม่ (2) ได้เล่าเรื่องประวัติศาสตร์จีน ยุคโบราณ (2100-256 ปีก่อนคริสตกาล) และยุคสมัยราชวงศ์และจักรวรรดิ (221 ก่อนคริสตกาล 5 ถึงค.ศ.1912) โดยมีราชวงศ์ชิงเป็นราชวงศ์สุดท้ายของจีน ก่อนประเทศจีนจะเปลี่ยนไปสู่ระบบสาธารณรัฐ
ดังนั้น เพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจรอยต่อประวัติศาสตร์จีนระหว่างยุคราชวงศ์และจักรวรรดิไปสู่จีนยุคใหม่หรือยุคสาธารณรัฐ จึงขอนำเรื่องราวของประวัติ จีน ยุคราชวงศ์ชิงมาเล่าเพิ่มเติม ก่อนที่จะเล่าเรื่องราว ประวัติ จีน ยุคใหม่ต่อไป
2.ประวัติ จีน ยุคราชวงศ์ชิง (ค.ศ.1644-1812) ระยะเวลารวม 168 ปี
ก่อนจะถึงยุคของราชวงศ์ชิง เป็นยุคของราชวงศ์หมิง ซึ่งได้ครองอำนาจเหนือแผ่นดินจีนเป็นเวลา 276 ปี (ค.ศ.1368-1644)
2.1 ความเป็นมาของการสถาปนาราชวงศ์ชิง
ผู้สถาปนาราชวงศ์ชิงเป็นคนแมนจูเรีย เผ่านูรฮาซี ชื่อ หนูเอ่อร์ฮา(Nurhci) ได้ประกาศสถาปนาราชวงศ์ชิงขึ้น ตั้งตนเป็นปฐมกษัตริย์ มีพระนามว่า จักรพรรดิหวงไท่จี๋
ราชวงศ์ชิง เป็นราชวงศ์ของชาวต่างชาติ ราชวงศ์ที่สองที่ครองแผ่นดินจีนทั้งหมด ราชวงศ์แรกคือราชวงศ์หยวนหรือมองโกล ซึ่งปกครองจีนเป็นเวลา 89 ปี (ค.ศ.1279-1386) โดยราชวงศ์ชิงมีดินแดนกว้างใหญ่เป็นเกือบสองเท่าของราชวงศ์หมิง ซึ่งได้ปกครองจีนมาก่อนหน้านี้
ชนเผ่าแมนจู เป็นชนเผ่าอยู่ในทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของราชวงศ์หมิง ประกอบด้วยชนเผ่าย่อย ๆ มากถึง 2,000-3,000 ชนเผ่า และอยู่นอกเขตกำแพงเมืองจีน ชนเผ่าแมนจูสามารถคุกคามจีนได้ภายหลังหนูเอ่อร์ฮา สามารถรวบรวมชนเผ่าแมนจูทุกเผ่าให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้สำเร็จเมื่อปีค.ศ.1636
เมื่อปีค.ศ.1644 หลี่ จื้อเฉิง ได้เป็นหัวหน้ากบฏชาวนาเข้ายึดกรุงปักกิ่ง ทำให้สมเด็จพระจักรพรรดิฉงเจิน จักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์หมิงตัดสินใจฆ่าพระองค์ตาย ต่อมาได้เกิดกบฏราชวงศ์ หมิง โดยพวกแมนจูได้จับมือกับนายพลอู๋ ซานกุ้ย แม่ทัพของ ราชวงศ์หมิง ยอมเปิดประตูเมืองให้พวกแมนจูเข้ายึดกรุงปักกิ่งได้โดยสะดวก และสามารถสถาปนาราชวงศ์ชิงขึ้นปกครองแผ่นดินจีนสำเร็จได้อย่างง่ายดาย โดยมีกรุงปักกิ่งเป็นเมืองหลวง
2.2 เหตุการณ์สำคัญในยุคราชวงศ์ชิง
ในยุคราชวงศ์ชิง มีเหตุการณ์สำคัญพอจะสรุปได้ดังนี้
2.2.1 ความรุ่งโรจน์ในยุคสมเด็จพระจักรพรรดิคังซี (Kangxi Emperor)
สมเด็จพระจักรพรรดิคังซี เป็นจักรพรรดิองค์ที่ 3 ของราชวงศ์ชิง นับเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพระองค์หนึ่งของจีน เสวยราชสมบัติยาวนานถึง 61 ปี (ค.ศ.1661-1722) พระองค์ได้สร้างผลงานที่สำคัญไว้ดังนี้
-สร้างพจนานุกรมคังซี (Kangxi Dictionary) เป็นพจนานุกรมที่สมบูรณ์ที่สุดของจีนเท่าที่เคยมีมา
– การปราบกบฏสามเจ้าศักดินา
-โจมตีอาณาจักรไต้หวัน
-ปราบกบฏมองโกล
-รบชนะรัสเซียที่เมืองอัลบาซิน (Albazin) ทำให้สามารถยับยั้งการขยายอาณาเขตของรัสเซียได้ และจบลงด้วยการทำสนธิสัญญาสงบศึกเนอร์ซินสค์ ( Treaty of Nerchinsk)
2.2.2 ความรุ่งโรจน์ยุคจักรพรรดิเฉียนหลง (Qianlong Emperor)

จักรพรรดิเฉียนหลง เป็นพระราชนัดดาของจักรพรรดคังซี นับเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 6 ของราชวงศ์ชิง เสวยราชสมบัติเป็นเวลา 60 ปี 124 วัน (ค.ศ.1735-1796) พระองค์ได้สร้างความเจริญให้แก่ประเทศจีนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้จัดทำสารานุกรม ซื่อคู่เฉวียนซู ระหว่างปีค.ศ.1773-1782 ถือเป็นมรดกโลกสำคัญชิ้นหนึ่ง
ในยุคจักรพรรดิเฉียนหลง ราชวงศ์ชิงได้เจริญถึงจุดสูงสุด โดยในปีค.ศ.1796 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายในการเสด็จเสวยราชสมบัติของพระองค์ ราชวงศ์ชิงปกครองประชากรมากกว่า 1 ใน 3 ของประชากรทั้งโลก มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก และนับเป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
ในรัชสมัยจักรพรรดิเฉียนหลงมีเรื่องราวที่เป็นเรื่องเล่าเป็นตำนานหลายเรื่อง เช่น เรื่องเล่าว่า จักรพรรดิเฉียนหลงชอบแปลงพระองค์เป็นสามัญชนเที่ยวไปในสถานที่ต่าง ๆ จนได้ฉายาว่า ”จักรพรรดิเจ้าสำราญ”
3.ก่อนจะเป็นจีน ยุคใหม่
อย่างไรก็ตาม หลังพ้นรัชสมัยจักรพรรดิเฉียนหลง ราชวงศ์ชิงได้อ่อนแอลงเรื่อย ๆ ไม่มีจักรพรรดิพระองค์ใดที่มีพระปรีชาสามารถ โดยมีเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ราชวงศ์ชิงอ่อนแอลง ดังนี้
3.1 การคุกคามจากชาติมหาอำนาจตะวันตก
ในศตวรรษที่ 19 จักรวรรดิจีนมีปัญหาความไม่สงบภายในและมีปัญหาถูกคุกคามจากภายนอกคือชาติมหาอำนาจตะวันตก กล่าวคือ เมื่อปีค.ศ.1840 ได้เกิดสงครามฝิ่นครั้งแรก (First Opium War 1840) ผลปรากฏว่า จีนพ่ายแพ้ต่อจักรวรรดิอังกฤษ ทำให้ต้องมีการทำสนธิสัญญานานกิงเมื่อปี ค.ศ. 1842 (Treaty of Nanking 1842) อันเป็นผลทำให้ฮ่องกงต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ และอังกฤษสามารถส่งฝิ่นเข้าไปขายในจีนได้ เพื่อทำให้สังคมจีนอ่อนแอและขาดเสถียรภาพ
นอกจากการพ่ายแพ้ในสงครามฝิ่นกับอังกฤษแล้ว การพ่ายแพ้ทางทหารและสนธิสัญญาที่ไม่เท่าเทียมของจีนกับชาติมหาอำนาจตะวันตกอื่น ๆ อีก ยังคงดำเนินต่อไปแม้จะเป็นภายหลังสิ้นสุดราชวงศ์ชิง
3.2 กบฏไต้ปิง (Taiping Rebellion)
ในส่วนปัญหาความไม่สงบภายใน ได้เกิดกบฏไต้ปิง (Taiping Rebellion) ช่วงปีค.ศ.1851-1864
กบฏไต้ปิง มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สงครามกลางเมืองไต้ปิง (Taiping Civil War) หรือการปฏิวัติไต้ปิง (Taiping Revolution) เป็นการต่อสู้กันระหว่างราชวงศ์ชิง กับอาณาจักรแห่งสวรรค์ไต้ปิง (Taiping Heavenly Kingdom) ซึ่งเป็นชาวจีนแคระ เป็นระยะเวลายาวนานถึง 14 ปี ฝ่ายกบฏนำโดย หง ซิ่วเฉวียนได้ก่อการกบฏโดยมีแรงบันดาลใจมาจากศาสนาคริสต์ และลัทธิชาตินิยม ต้องการโค่นล้มราชวงศ์ชิง
กบฏไต้ปิงหรือสงครามกลางเมืองไต้ปิงได้ก่อให้เกิดความสูญเสียแก่ชีวิตมากถึง 20-30 ล้านคน มากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ซึ่งมีจำนวนราว 10 ล้านคน
แม้ราชวงศ์ชิงจะสามารถเอาชนะฝ่ายกบฏได้ในที่สุด เนื่องจากได้รับความช่วยเหลือจากชาติมหาอำนาจตะวันตกที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน แต่ก็ทำให้ราชวงศ์ชิงอ่อนแอลงมาก
3.3 สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 1 (First Sino-Japanese War 1894-1895)
เมื่อปีค.ศ.1894-1895 ได้เกิดสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง เป็นสงครามเพื่อครอบครองคาบสมุทรเกาหลีปรากฏว่า จีนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ สงครามนี้เป็นสิ่งชี้บอกความอ่อนแอของราชวงศ์ชิง และการประสบความสำเร็จของญี่ปุ่นในการพัฒนาประเทศให้ทันสมัยแบบ ตะวันตก ซึ่งได้เริ่มทำมาตั้งแต่ยุคจักรพรรดิเมจิ ส่งผลทำให้ราชวงศ์ชิงอ่อนแอลง
3.4 การจลาจลนักมวย (Boxer Uprising) ปี 1900
การจลาจลนักมวย เป็นการจลาจลทีเกิดขึ้นเพื่อต่อต้านอิทธิพลของต่างชาติ และได้สังหารชาวคริสต์จีน และมิชชันนารีของต่างชาติ เมื่อนักมวยเข้ากรุงปักกิ่ง ราชวงศ์ชิงได้สั่งให้ชาวต่างชาติทั้งหมดออกไป แต่ชาวต่างชาติและชาวคริสต์จีนได้ถูกล้อมไว้ในสถานทูต พันธมิตรแปดชาติได้แก่ ญี่ปุ่น รัสเซีย อังกฤษ อิตาลี เยอรมนี ฝรั่งเศส อเมริกา และออสเตรเลีย ได้ส่งกองทหารเข้าไปช่วย แต่กองกำลังของราชวงศ์ชิงและนักมวยสามารถบังคับให้กองทหารพันธมิตรแปดชาติให้ล่าถอยออกไปในการต่อสู้ที่ หลางฝาง ( Battle of Langfang )
หลังจากการโจมตีของพันธมิตรที่ป้อมต้ากู (Dagu Forts) ราชวงศ์ชิงได้ประกาศสงครามกับพันธมิตร และยินยอมให้นักมวยเข้าร่วมรบกับกองทัพจักรพรรดิ หลังจากการรบอย่างหนักที่เทียนสิน พันธมิตรได้รวมตัวกันเป็นครั้งที่สอง เป็นกองทหารที่มีจำนวนมากกว่าครั้งแรก และในที่สุดก็บุกไปถึงกรุงปักกิ่ง จักรพรรดินี ทูสีไทเฮา สั่งให้ล่าถอยไปยังซีอาน ด้วยการเจรจาทางการทูตทำให้สงครามยุติ แต่จีนต้องเสียค่าปฏิกรรมสงครามเป็นจำนวนมหาศาล (tremendous indemnity)
3.5 การสิ้นสุดราชวงศ์ชิง ในปี 1912
หลังจากเหตุการณ์กบฏนักมวยเมื่อปีค.ศ.1900 ราชวงศ์ชิงได้กำหนดนโยบายใหม่ในการปฏิรูปกฎหมายและการบริหารประเทศ รวมทั้งยกเลิกระบบการตรวจสอบ แต่เจ้าหน้าที่หนุ่มสาว นายทหารและนักศึกษากลับโต้เถียงกันในเรื่องของการปฏิรูปว่า ควรจะให้ประเทศปกครองด้วยระบบกษัตริย์ที่อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ (constitutional monarchy) หรือว่าจะโค่นล้มราชวงศ์ชิงแล้วสถาปนาเป็นประเทศ สารธารณรัฐ
พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจากปัญญาชนอย่างเช่น เหลียงฉีเฉา (Liang Qichao) และแนวคิดในด้านการปฏิวัติของ ดร.ซุน ยัตเซน (Sun Yat-sen) ได้มีการก่อจลาจลของกองทหารในท้องถิ่น เริ่มต้นที่เมืองอู่ชาง (Wuchang Uprisng) ปัจจุบัน คือเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลหูเป่ย์ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ.1911 หลังจากนั้น การก่อจลาจลได้กระจายออกไป จนในที่สุด ได้มีการประกาศสถาปนาระบบสาธารณรัฐขึ้นแทนที่การปกครองของราชวงศ์ชิง เมื่อวันที่ 1 มกราคม 1912 เป็นอันสิ้นสุดการปกครองของราชวงศ์ของประเทศจีนที่มีมาเป็นเวลายาวนานร่วม 4.000-5,000 ปี
4.ประวัติ จีน ยุคใหม่ (1912-ปัจจุบัน)
หลังจากการก่อจลาจลได้เริ่มที่เมืองอู่ชาง เมื่อปีค.ศ.1911 จนกระทั่งได้ลุกลามไปทั่วประเทศ จนในที่สุดได้มีการโค่นล้มราชวงศ์ชิงลง และได้มีการสถาปนาระบบสาธารณรัฐ (republic) ขึ้นแทนเมื่อปีค.ศ.1912 อันเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติ จีน ยุคใหม่
อย่างไรก็ดี จีนยุคใหม่ แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ
4.1 ช่วงแรก เป็นยุคสาธารณรัฐจีน (Republic of China) ปีค.ศ.1912-1949 เป็นช่วงของการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยแบบประเทศตะวันตก ภายใต้การนำของดร.ซุน ยัตเซน
4.2 ช่วงที่สอง เป็นยุคสาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Republic of China) นับตั้งแต่ปีค.ศ.1949 ภายใต้การนำของเหมา เจอ ตุง อันเป็นการปกครองตามระบอบคอมมิวนิสต์ จนกระทั่งปัจจุบัน
5.ยุคสาธารณรัฐจีน (1912-1949) ระยะเวลา 37 ปี

การโค่นล้มราชวงศ์ชิงเมื่อปีค.ศ.1912 ถือเป็นการปฏิวัติครั้งที่หนึ่งของจีน ด้วยการเปลี่ยนระบอบการปกครองประเทศจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตย
รัฐบาลชั่วคราวของสาธารณรัฐจีนได้จัดตั้งที่เมืองนานกิงเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 1912 โดยดร. ซุน ยัตเซน ได้กลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐจีน แต่อยู่ได้ไม่นานก็ต้องยอมถ่ายโอนอำนาจให้หยวน ซีไข่ (Yuan Shikhai) ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารของกองทัพที่จัดตั้งขึ้นใหม่เป็นประธานาธิบดี หลังจากนั้นภายในเวลาไม่กี่ปี หยวน ซีไข่ ได้สั่งให้ยกเลิกการสภาระดับชาติและระดับมณฑล(national and provincial assemblies) และได้ประกาศสถาปนาตนเองเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ เมื่อปลายปี 1915 แต่ความทะเยอทะยานในการเป็นจักรพรรดิของหยวน ซีไข่ ได้ถูกต่อต้านโดยผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา จึงมีโอกาสที่จะเผชิญการกบฏ ทำให้พระองค์ตัดสินใจสละราชสมบัติเมื่อเดือนมีนาคม 10 มีนาคม 1916 และได้ตายลงในเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน
การตายของหยวน ซีไข่เมื่อปี 1916 ทำให้เกิดสุญญากาศแห่งอำนาจ รัฐบาลสาธารณรัฐแตกกระจัดกระจาย จึงเป็นการเปิดทางไปสู่ยุคสมัยขุนศึก (Warlord Era) เกิดการแข่งขันอำนาจระหว่างผู้นำทหารในส่วนภูมิภาคและรัฐบาลสาธารณรัฐจีน ในขณะเดียวกัน บรรดาปัญญาชนต่างไม่พอใจความล้มเหลวของสาธารณรัฐ จึงเกิดมีขบวนการวัฒนธรรมใหม่ (New Culture Movement)
ในปีค.ศ.1919 ขบวนการที่สี่พฤษภาคม (May Fourth Movement) เริ่มต้นที่จะโต้แย้งข้อตกลงที่สนับสนุนญี่ปุ่นเกี่ยวกับจีนในสนธิสัญญาแวร์ซายส์ภายหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เกิดการประท้วงในวงกว้างไปทั่วประเทศ จีนปฏิเสธที่จะลงนามในสนธิสัญญาแวร์ซายส์ที่กำหนดให้ญี่ปุ่นได้ครอบครองมณฑลชานตงแทนเยอรมนี
สงครามกลางเมืองจีน ค.ศ.1927-1949
สงครามกลางเมืองจีน เป็นการต่อสู้กันระหว่างพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ปกครองสาธารณรัฐจีน กับพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อแย่งชิงอำนาจในการปกครองประเทศจีน สงครามได้เริ่มต้นเมื่อปีค.ศ.1927 และไปสิ้นสุดเมื่อปีค.ศ.1950 ทำให้ประเทศจีนต้องแตกออกเป็น 2 ประเทศ คือ สาธารณรัฐจีนบนเกาะไต้หวัน และสาธารณรัฐประชาชนจีนบนแผ่นดินใหญ่
สงครามจีน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 ค.ศ.1937-1945
ในระหว่างการเกิดสงครามกลางเมืองจีน ได้เกิดสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ขึ้นมาสอดแทรก
สงครามจีน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 เป็นสงครามขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชียในศตวรรษที่ 20 มูลเหตุเกิดจากการที่จักรวรรดิญี่ปุ่นมีนโยบายมาเป็นเวลาหลายทศวรรษในการขยายดินแดนเพื่อให้เข้าถึงแหล่งแร่ วัตถุดิบ และอาหาร โดยนักประวัติศาสตร์บางคนถือว่า จุดเริ่มต้นของสงครามจีน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 อย่างเต็มรูปแบบเมื่อปีค.ศ.1937 คือจุดเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่ 2
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซุน ยัตเซน จับมือกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนต่อสู้กับญี่ปุ่น แต่พอสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง สงครามกลางเมืองระหว่างพรรคก๊กมินตั๋งและพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ได้ดำเนินต่อไป จนกระทั่งปีค.ศ.1949 พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็น
ฝ่ายชนะสงครามกลางเมือง

สาธารณรัฐจีนได้สิ้นสุดลงเมื่อปีค.ศ.1949 ภายหลังสิ้นสุดสงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายนิยมประชาธิปไตยภายใต้การนำของพรรคก๊กมินตั๋ง ที่มีเจียง ไคเช็ค เป็นผู้นำ และพรรคคอมมิวนิสต์จีนภายใต้การนำของเหมา เจอ ตุง โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นฝ่ายชนะ
6.ยุคสาธารณรัฐประชาชนจีน (1949-ปัจจุบัน)
สาธารณรัฐประชาชนจีนหรือจีนคอมมิวนิสต์ได้ถือกำเนิดภายหลังการสิ้นสุดสงครามกลางเมืองระหว่างพรรคก๊กมินตั๋งที่ปกครองสาธารณรัฐจีน กับพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อแย่งชิงการควบคุมประเทศจีน ระหว่างปีค.ศ.1927-1949 รวมระยะเวลา 22 ปี
สงครามนี้เป็นสงครามอุดมการณ์ระหว่างพรรคก๊กมินตั๋งชาตินิยม และพรรคคอมมิวนิสต์จีน สงครามได้ดำเนินไประยะหนึ่งจนกระทั่งได้เกิดสงครามจีน-ญี่ปุ่น ทั้งสองฝ่ายจึงได้จับมือกันเป็นแนวร่วมต่อสู้กับญี่ปุ่นระหว่างปี ค.ศ.1937-1945 ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่สอง โดยญี่ปุ่นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงคราม
หลังจากนั้น ทั้งสองฝ่ายก็ได้หันมาสู้รบกันเองต่อ จนในที่สุดพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นฝ่ายชนะเมื่อปีค.ศ.1949 และได้สถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ปกครองประเทศด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ ส่วนพรรคก๊กมินตั๋งชาตินิยม ต้องถอยไปตั้งหลักอยู่ที่ไต้หวันจนกระทั่งทุกวันนี้
อย่างไรก็ดี สงครามนี้ยังไม่ได้มีการลงนามสงบศึกจนกระทั่งทุกวันนี้ สาธารณรัฐประชาชนจีนจึงอ้างสิทธิเหนือไต้หวันเป็นอาณาเขตส่วนหนึ่งของตน และฝ่ายสาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) ก็อ้างสิทธิเหนือแผ่นดินใหญ่ โดยทั้งสองฝ่ายยังคงต่อสู้กันในเรื่องการรับรองทางการทูต
8.สรุป
ประวัติ จีน ยุคใหม่ เป็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์จีน ภายหลังการสิ้นสุดของราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของจีน นับตั้งแต่ปีค.ศ.1912 จนกระทั่งปัจจุบัน โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ
ช่วงแรก เป็นช่วงของการปฏิวัติเปลี่ยนระบอบการปกครองของประเทศจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของราชวงศ์ชิงไปสู่การเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตย อยู่ในช่วงปีค.ศ. 1912-1949
ช่วงที่สอง เป็นช่วงของการปฏิวัติเปลี่ยนระบอบการปกครองของประเทศจากระบอบประชาธิปไตยไปสู่ระบอบคอมมิวนิสต์ นับตั้งแต่ปีค.ศ.1949-ปัจจุบัน
ส่วนข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดตามได้ใน ถาม-ตอบ สนุก กับดร.ชา 369
ถาม-ตอบ สนุก กับดร.ชา 369
เป็นการถาม-ตอบ เพื่อขยายความในบางจุดให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ถาม-จักรพรรดิราชวงศ์ชิงที่มีชื่อเสียงและผลงานโดดเด่นของราชวงศ์ชิง คือจักรพรรดิพระองค์ใด
ตอบ- จักรพรรดิราชวงศ์ชิงที่มีชื่อเสียงและผลงานโดดเด่นมีอยู่ 2 พระองค์คือ
จักรพรรดิคังซี เป็นจักรพรรดิองค์ที่ 3 ของราชวงศ์ชิง ครองราชย์สมบัติ 61 ปี (ค.ศ.1661-1722) เป็นผู้สร้างพจนานุกรมคังซี ซึ่งเป็นพจนานุกรมจีนฉบับสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีการจัดทำมา
จักรพรรดิเฉียงหลง เป็นจักรพรรดิองค์ที่ 6 ของราชวงศ์ชิง ครองราชย์สมบัติ 60 ปี 124 วัน (ค.ศ.1735-179ุ6) เป็นผู้สร้างสารานุกรมซื่อคู่เฉวียนซู ซึ่งเป็นมรดกโลกช้ินสำคัญช้ินหนึ่ง
ถาม-อะไรเป็นสาเหตุทำให้ราชวงศ์ชิงอ่อนแอลงจนล่มสลายในที่สุด
ตอบ- สาเหตุที่ทำให้ราชวงศ์ชิงอ่อนแอลงจนล่มสลายในที่สุด มีอยู่ 4 ประการ คือ
ข้อแรก การคุกคามจากชาติมหาอำนาจตะวันตก จนเป็นสาเหตุทำให้เกิดสงคราฝิ่นระหว่างราชวงศ์ชิงกับอังกฤษ เมื่อปีค.ศ. 1840 ผลปรากฏว่าราชวงศ์ชิงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
ข้อสอง การเกิดกบฏไต้ปิง ช่วงปีค.ศ.1851-1864 กลายเป็นสงครามกลางเมืองที่มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก
ข้อสาม การเกิดสงครามจีน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 1 ปีค.ศ.1894-1895 เพื่อชิงความเป็นใหญ่เหนือคาบสมุทรเกาหลี จีนเป็นฝ่ายแพ้
ข้อสี่ การเกิดการก่อความไม่สงบของนักมวยเมื่อปีค.ศ.1900 ทำให้เกิดการสู้รบกันระหว่างราชวงศ์ชิงร่วมกับนักมวยฝ่ายหนึ่ง กับอีกฝ่ายหนึ่งคือพันธมิตรของมหาอำนาจตะวันตก จีนเป็นฝ่ายแพ้ ทำให้ต้องเสียค่าปฏิกรรมสงครามเป็นจำนวนมาก
ถาม-สาธารณรัฐจีนเกิดขึ้นได้อย่างไร
ตอบ-สาธารณรัฐจีนเกิดขึ้นจากพรรคก๊กมินตั๋ง ภายใต้การนำของ ดร.ซุน ยัตเซน ได้ทำการปฏิวัติล้มล้างราชวงศ์ชิง เมื่อปีค.ศ.1912 เพื่อเปลี่ยนการปกครองประเทศจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปสู่การเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตย โดยได้ตั้งรัฐบาลชั่วคราวที่เมืองนานกิงเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 1912
ถาม-สาธารณรัฐประชาชนจีน เกิดขึ้นได้อย่างไร
ตอบ- สาธารณรัฐประชาชนจีน เกิดขึ้นจากการทำสงครามกลางเมืองระหว่างพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งปกครองประเทศจีนอยู่ในขณะนั้น ภายใต้การนำของเจียง ไคเช็ค และพรรคคอมมิวนิสต์จีนภายใต้การนำของเหมา เจอตุง โดยได้ต่อสู้กันเป็นระยะเวลายาวนานนับตั้งแต่ปีค.ศ.1827 จนกระทั่งปีค.ศ.1949 สงครามกลางเมืองได้สิ้นสุดโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นฝ่ายชนะ
ถาม- ทำไมสาธารณรัฐประชาชนจีน จึงอ้างสิทธิว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน
ตอบ- สงครามกลางเมืองระหว่างพรรคก๊กมินตั๋ง และพรรคคอมมิวนิสต์ได้ยุติลงเมื่อปีค.ศ.1949 โดยชัยชนะเป็นของพรรคคอมมิวนิสต์จีน แต่ยังไม่ได้ทำสัญญาสงบศึก หรือสนธิสัญญาสันติภาพ ดังนั้น สาธารณรัฐประชาชนจีนหรือจีนแผ่นดินใหญ่ จึงไม่ยอมรับการที่ไต้หวันตั้งเป็นประเทศอิสระไม่ขึ้นกับจีนแผ่นดินใหญ่ และถือว่า ไต้หวันคือส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน
อาจารย์คะ สงครมฝิ่นมีความเป็นมาอย่างไรคะ
เป็นสงครามระหว่างจักรวรรดิบริเตนกับราชวงศ์ชิง สงครามฝิ่นครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปีค.ศ.1840 จีนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ต้องยอมทำสนธิสัญญานานกิงเมื่อปีค.ศ.1842 ยอมให้บริเตนได้ปกครองฮ่องกง และยอมให้บรเิตนส่งฝิ่นเข้าไปขายในจีนได้ เพื่อทำให้สังคมจีนอ่อนแอและขาดเสถียรภาพ
ส่วนสงครามฝิ่นครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1856-1860 จักรวรรดิบริเตนเป็นฝ่ายชนะ นำไปสู่การทำสนธสัญญาเทียนสิน เกาลูนและดินแดนใหม่ตกเป็นของจักรวรรดิบริเตน