87 / 100

กัมพูชา มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด เป็นบทความลำดับที่ 23 ของหมวด 12 เรื่องเล่า ประเทศอาเซียน จะกล่าวถึง ความนำ  ข้อมูลพื้นฐานของกัมพูชาที่ควรทราบ ขนาดจีดีพีและรายได้เฉลี่ยต่อหัว สินค้าเข้า-ออก ที่สำคัญ ทะเลสาบเขมร เมืองสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ นครวัด นครธม บ่อนคาสิโน วิเคราะห์ สรุป และถาม-ตอบ สนุก กับดร.ชา

Table of Contents

1.ความนำ

            ผมได้นำเสนอเรื่องราวของประเทศเขมรมาแล้ว จำนวน 2 บทความ คือ ประวัติกัมพูชาน่ารู้ และประเทศกัมพูชา มีรูปแบบการปกครองอย่างไร  ทั้งสองบทความคงจะได้ช่วยให้ท่านผู้อ่านเข้าใจประวัติศาสตร์ความเป็นมาและรูปแบบการปกครองของกัมพูชาได้เป็นอย่างดี ซึ่งย่อมจะทำให้ท่านเข้าใจในเรื่องความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศนี้ได้ดีขึ้น

            สำหรับบทความนี้ มุ่งจะนำเสนอเรื่องราวความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเขมรในภาพกว้างให้ท่านทราบ

2.ข้อมูลพื้นฐานของกัมพูชาที่ควรทราบ

       2.1 ขนาดพื้นที่

          เขมรมีพื้นที่ 181,035 ตารางกิโลเมตร นับมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 90 ของโลก และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 9 ของอาเซียน กล่าวคือ มีขนาดเล็กกว่าลาว ซึ่งมีพื้นที่ 236,800 ตางรางกิโลเมตร แต่มีขนาดใหญ่กว่าประเทศบรูไน ซึ่งมีพื้นที่ 5,765 ตารางกิโลเมตร

        2.2 จำนวนประชากร

          เขมรมีประชากร จำนวน 16,718,965 คน มากเป็นอันดับที่ 71 ของโลก และคิดเป็นอันดับที่ 8 ของประเทศอาเซียน กล่าวคือ น้อยกว่ามาเลเซีย (32,365,999 คน) แต่มากกว่า ลาว  (7,275,560 คน) และบรูไน (437,479 คน)

          เขมรมีอัตราเจริญพันธุ์ 2.5 มีอายุเฉลี่ย 26 ปี และอยู่ในเมืองร้อยละ 24

       ความเห็นเพิ่มเติมของดร.ชา

          จะเห็นได้ว่า ประชากรเขมรส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว เพราะมีอายุเฉลี่ยเพียง 26 ปีเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่เป็นชาวชนบท เพราะมีจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองเพียงร้อยละ 24  

        2.3 กลุ่มชาติพันธุ์ แยกออกเป็น

            ประชากรกัมพูชาส่วนใหญ่มีเชื้อสายเขมร 97 %   นอกจากนี้เป็น จาม 2.7 % จีน 0.2 % และอื่น ๆ 0.3 %

        2.4 ศาสนา

            คนเขมรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ 97.1 % นอกจากนี้ยังมีนับถือศาสนาอิสลาม 2.4 %ศาสนาคริสต์ 0.3 % และอื่น ๆ 0.5 %

       ความเห็นเพิ่มเติมของดร.ชา

          จะเห็นได้ว่า ชาวเขมรส่วนใหญ่มีเชื้อชาติเดียวกัน และนับถือศาสนาเดียวกัน คือศาสนาพุทธมากถึงร้อยละ 97 ดังนั้น โอกาสที่จะเกิดปัญหาความขัดแย้งทางเชื้อชาติและศาสนาจึงมีน้อยมาก

3.ขนาดจีดีพีและรายได้เฉลี่ยต่อหัว

          ดัชนีชี้วัดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สำคัญของแต่ละประเทศ คือ ขนาดจีดีพี และรายได้เฉลี่ยต่อหัว  สำหรับประเทศเขมรมีขนาดจีดีพี และรายได้เฉลี่ยต่อหัว ดังนี้

       3.1 ขนาดจีดีพี

          ตามข้อมูลของธนาคารโลก ประเทศเขมรมีขนาดจีดีเมื่อปี 2020 จำนวน 25,291 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับสูงเป็นอันดับที่ 106 ของโลก และเป็นลำดับที่ 8 ของประเทศอาเซียน กล่าว มีขนาดจีดีพีน้อยกว่าพม่า (76,180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) แต่มากกว่า ลาว (19,136 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และบรูไน (12,016 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

      3.2 รายได้เฉลี่ยต่อหัว

          ตามข้อมูลของธนาคารโลก ประเทศเขมรมีรายได้เฉลี่ยต่อหัว เมื่อปี 2020 จำนวน 1,513 ดอลลาร์สหรัฐ สูงเป็นอันดับ 172 ของโลก และเป็นอันดับที่ 9 ของประเทศอาเซียน กล่าวคือ น้อยกว่าประเทศลาว (2,630 ดอลลาร์สหรัฐ) และมากกว่าประเทศพม่า (1,400 ดอลลาร์สหรัฐ)

          นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2542 เป็นต้นมา เศรษฐกิจประเทศเขมรเริ่มต้นดีขึ้นหลังจากสงครามกลางเมืองได้สงบลง และได้ดำเนินฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศด้วยการเปิดการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น สนับสนุนการท่องเที่ยว พัฒนาศักยภาพการผลิต พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภค มีนโยบายส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ

            ดังจะเห็นได้จากเมื่อปีพ.ศ.2554 และ 2555 จีดีพีของเขมรเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 7.1  และร้อยละ 6.5 ตามลำดับ ซึ่งมากกว่าการเจริญเติบโตของจีดีพีประเทศอาเซียน  ซึ่งมีอัตราเติบโตเฉลี่ยเพียงร้อยละ 5.2

      ความเห็นเพิ่มเติมของดร.ชา

          แม้ประเทศเขมรจะมีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ แต่การที่ต้องตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสเป็นเวลายาวนานระหว่างปี พ.ศ.2410-2497 รวมเป็นเวลา 86 ปี และหลังจากได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสเมื่อปีพ.ศ.2497 บ้านเมืองมิได้อยู่ในความสงบ เพราะได้เกิดสงครามกลางเมืองสู้รบกันเองเป็นช่วง ๆ เพิ่งมีความสงบที่แท้จริงภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปีพ.ศ.2540 ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า ประเทศเขมรเพิ่งมีโอกาสเริ่มต้นพัฒนาอย่างจริงจังมาได้เพียง 26 ปีเท่านั้น

4.สินค้าออกและสินค้าเข้าที่สำคัญ

          สินค้าออก และสินค้าเข้าที่สำคัญของเขมร มีดังนี้ คือ

       4.1 สินค้าส่งออก

            สินค้าออกที่สำคัญของประเทศเขมร สินค้าเกษตรกรรมได้แก่ ยางพารา ข้าว ผลิตภัณฑ์ปลา ข้าวโพด ถั่วเหลือง ใบยาสูบ และผลิตภัณฑ์ไม้ ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมได้แก่ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า และสิ่งทอ

      4.2 สินค้าเข้า

            สินค้าเข้าที่สำคัญของเขมร ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม บุหรี่ ทอง อุปกรณ์ก่อสร้าง เครื่องจักร รถจักรยานยนต์ และผลิตภัณฑ์ยา

5.ทะเลสาบเขมร

          ทะเลสาบเขมร เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ และมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศเขมรมาก

แผนที่ทะเลสาบเขมร (วิกิพีเดีย, โตนเลสาบ, 11 กรกฎาคม 2564)
แผนที่ทะเลสาบเขมร (วิกิพีเดีย, โตนเลสาบ, 11 กรกฎาคม 2564)

       5.1 ข้อมูลทางกายภาพ

            ทะเลสาบเขมรหรือโตนเลสาบ เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ตั้งอยู่ตรงกลางของประเทศกัมพูชา มีพื้นที่ 7,500 ตารางกิโลเมตร มีความลึกโดยเฉลี่ย 10 เมตร และเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก น้ำจะท่วมพื้นที่โดยรอบ ทำให้พื้นทะเลสาบขยายกว้างออกไปอีกถึง 6 เท่า โดยมี ส่วนยาวที่สุดของแม่น้ำยาว 250 กิโลเมตร และส่วนกว้างที่สุด 100 กิโลเมตร

            ทะเลสาบเขมรเกิดจากแม่น้ำโขง  ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัดของเขมร คือ กัมปงธม กัมปงชนัง โพธิสัตว์ พระตะบอง และเสียมเรียบ

            มีแม่น้ำ 2 สาย ไหลลงทะเลสาบเขมร คือ แม่น้ำโตนเลสาบ และแม่น้ำเสียมเรียบ  และมีแม่น้ำไหลออก 1 สายคือ แม่น้ำโตนเลสาบ ไหลออกไปบรรจบแม่น้ำโขงและแม่น้ำบาสัก ที่กรุงพนมเปญ ซึ่งอยู่ห่างจากปลายทะเลสาบ 100 กิโมเมตร

        5.2 ความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ

            ทะเลสาบเขมร นับว่ามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของกัมพูชาเป็นอย่างมาก ดังนี้

                        5.2.1 เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์น้ำนานาชนิด เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง มีพันธุ์ปลามากกว่า 200 ชนิด นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดทรัพยากรธรรมชาติประเภทอื่น ๆ อีกจำนวนมาก ทั้งพืช สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และนก

                        5.2.2 เป็นแหล่งทรัพยากรประมงที่สำคัญ โดยเฉพาะปลาน้ำจืด เป็นสินค้าออกที่สำคัญของเขมร รองลงมาจากข้าว และเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญของกัมพูชา โดยเป็นแหล่งประมงน้ำจืดขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก

                        5.2.3 เป็นแหล่งเพาะปลุกข้าวและพืชเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของเขมร

                        5.2.4 เป็นแหล่งทรัพยากรป่าไม้

                        5.2.5 เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

                        5.2.6 เป็นปราการป้องกันน้ำท่วม

                        5.2.7 เป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำที่สำคัญในการเชื่อมจังหวัดต่าง ๆ ที่อยู่รอบทะเลสาบผ่านแม่น้ำบาสักไปยังกรุงพนมเปญ

6.เมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ

            เมืองที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเขมร ได้แก่

6.1 พนมเปญ

            เป็นเมืองหลวง เป็นแหล่งอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม สิ่งทอ รองเท้า เป็นศูนย์กระจายสินค้าไปทั่วประเทศ

เป็นเมืองหลวง เป็นแหล่งอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม สิ่งทอ รองเท้า เป็นศูนย์กระจายสินค้าไปทั่วประเทศ

        6.2 กรุงสหนุวิลล์

            เป็นเมืองท่า กล่าวคือมีท่าเรือน้ำลึกนานาชาติออกสู่ทั่วโลกทางทะเลอ่าวไทย เป็นแหล่งอาหารทะเล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล และเป็นแหล่งขุดเจาะก๊าซ และน้ำมัน

       6.3 จังหวัดเสียมเรียบ

          เป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญทางด้านการท่องเที่ยว กล่าวคือ เป็นสถานที่ตั้งของนครวัด นครธม ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มีโรงแรม ที่พัก และร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว

       6.4 จังหวัดพระตะบอง

            เป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญ กล่าวคือ เป็นแหล่งผลิตข้าว ปลูกผลไม้และพืชไร่

       6.5 จังหวัดเกาะกง

            เป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญ ในด้านการประมง และการท่องเที่ยวทางทะเล

       6.7 จังหวัดกัมปงจาม

            เป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญ ในด้านการปลูกยางพารา เงาะ มังคุด ทุเรียน และผลไม้อื่น ๆ

7.นครวัด นครธม

          โบราณสถานของประเทศเขมรที่มีคนรู้จักทั้งโลก คือ นครวัด นครธรรม

นครวัดได้รับการขึ้นเป็นมรดกโลกโยยูเนสโก ในชื่อเมืองพระนคร(อังกอร์) เมื่อปีค.ศ.1992

7.1 นครวัด

ปราสาทนครวัด จังหวัดเสียมเรียบ แห่ล่งมรดกโลก สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้แก่กัมพูชาแต่ละปีเป็ยจำนวนมาก (วิกิพีเดีย, นครวัด, วันที่ 11 กรกฎาคม 2564)
ปราสาทนครวัด จังหวัดเสียมเรียบ แห่ล่งมรดกโลก สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้แก่กัมพูชาแต่ละปีเป็ยจำนวนมาก (วิกิพีเดีย, นครวัด, วันที่ 11 กรกฎาคม 2564)

นครวัด เป็นหมู่ปราสาทในประเทศเขมร นับเป็นศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะมีพื้นที่รวมมากกว่า 162.6 เฮกเตอร์ ได้สร้างขึ้นในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 โดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2  ณ เมืองยโสธรปุระหรือเมืองพระนคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิเขมร ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดเสียมเรียบ สร้างให้เป็นเทวาลัยในศาสนาฮินดูเพื่อบูชาพระวิษณุ แต่เมื่อปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 ได้กลายเป็นวัดในศาสนาพุทธ

นครวัดเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา ดังปรากฏอยู่บนธงชาติ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญสูงสุดของเขมร

7.2 นครธม

ปราสาทบายน ปราสาททีมีชื่อเสียงของนครธม
(วิกิพีเดีย, นครธม, 11 กรกฎาคม 2564)
ปราสาทบายน ปราสาททีมีชื่อเสียงของนครธม
(วิกิพีเดีย, นครธม, 11 กรกฎาคม 2564)

นครธม เป็นเมืองหลวงแห่งสุดท้ายและเป็นเมืองที่เข้มแข็งที่สุดของจักรวรรดิเขมร ปัจจุบันตั้งอยู่ในจังหวัดเสียมเรียบ สร้างขึ้นในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 ในสมัย พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มีพื้นที่ครอบคลุม 9 ตารางกิโลเมตร อยู่ทางทิศเหนือของนครวัด

ใจกลางพระนคร  มีปราสาทบายน เป็นปราสาทหลัก ที่รายล้อมด้วยกลุ่มปราสาทและลานกลางแจ้งขนาดใหญ่

ลักษณะโดดเด่นของนครธม คือ พระพักตร์สี่หน้าของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7

นครธม มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อังกอร์ธม และถือเป็นส่วนหนึ่งของเมืองพระนคร

ในรัชสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 แห่งอาณาจักรอยุธยา ได้ขับไล่ชาวเขมรในสมัยพระบรมราชา ออกจากนครธม เขมรจึงได้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่กรุงพนมเปญ

8. บ่อนคาสิโน

          ประเทศเขมร ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีบ่อนคาสิโนมากที่สุดในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และนับเป็นศูนย์กลางการพนันที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ทำให้เขมรมีรายได้จากการมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจบ่อนคาสิโนปีละหลายหมื่นล้านบาท

            เงินหล่อเลี้ยงบ่อนคาสิโนเหล่านี้ ผ่านทางบ่อนคาสิโนที่อยู่พรมแดนไทย-เขมร

       ความเห็นเพิ่มเติมของดร.ชา

          ประเทศรอบบ้านของไทย ล้วนมีบ่อนคาสิโนที่ชอบด้วยกฎหมายรายล้อมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย สิงคโปร์ พม่า ลาว และเขมร ในขณะที่ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่ยังไม่ยอมให้มีบ่อนคาสิโนที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น คนไทยที่นิยมชมชอบการเล่นการพนัน จึงต้องเข้าไปเล่นในบ่อนคาสิโนของประเทศเพื่อนบ้าน

9. วิเคราะห์

          ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของเขมรถือได้ว่า อยู่ในทิศทางที่กำลังจะเจริญก้าวหน้าไปด้วยดี ดังจะเห็นได้จาก เมื่อปีพ.ศ.2554 และ 2555 จีดีพีของเขมรเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 7.1  และร้อยละ 6.5 ตามลำดับ ซึ่งมากกว่าการเจริญเติบโตของจีดีพีประเทศอาเซียน  ซึ่งมีอัตราเติบโตเฉลี่ยเพียงร้อยละ 5.2  ด้วยเหตุปัจจัยดังนี้

        9.1 ด้านทรัพยากรธรรมชาติ

            เขมรเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ ปลาน้ำจืด แร่ธาตุต่าง ๆ รวมทั้งมีการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติ 

       9.2 ด้านแรงงาน

            ประชากรเขมรส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน มีอายุอายุเฉลี่ยเพียง 26 ปี (ในขณะที่ประชากรไทยมีอายุเฉลี่ยมากถึง 40 ปี)  ดังนั้น แรงงานจึงหาได้ไม่ยาก ประกอบกับอัตราค่าแรงานยังต่ำมาก

        9.3 ด้านสถานที่ท่องเที่ยว

            เขมรมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นครวัด นครธรรม และทะเลสาบเขมร รวมทั้งชายทะเล

       9.4 การเข้าเป็นสมาชิกอาเซียน

          เขมรได้เข้าเป็นสมาชิกอาเซียน เมื่อปีพ.ศ.2542 เป็นลำดับสุดท้าย ทั้ง ๆ ทีได้ยี่นความประสงค์เข้าเป็นสมาขิกพร้อมกับพม่าและลาว แต่เนื่องจากมีเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ ทำให้มีการเลื่อนการพิจารณารับประเทศเขมรเข้าเป็นสมาชิกออกไป

            การเป็นสมาชิกอาเซียนดังกล่าว ทำให้เขมรได้รับประโยชน์ร่วมกับประเทศอาเซียนอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการเป็นตลาดและฐานผลิตเดียวกัน  ซึ่งเป็นประโยชน์ในการดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งนักลงทุนจากประเทศอาเซียนด้วยกัน

       9.5 ด้านเสถียรภาพทางการเมืองและเสถียรภาพของรัฐบาล

            นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2540 เป็นต้นมา การเมืองของเขมรมีเสถียรภาพมาก ไม่มีการสู้รบกันเองเหมือนอย่างในอดีตที่ผ่านมา ยิ่งกว่านั้น รัฐบาลก็มีเสถียรภาพมากเช่นกัน แม้จะเป็นรัฐบาลผสมระหว่างพรรคประชาชนกัมพูชา ของสมเด็จฮุน เซน และพรรคฟุนซินเปก ของสมเด็จกรมพระรณฤทธิ์ แต่ทั้งสองพรรคสามารถร่วมมือกันได้เป็นอย่างดีทั้งด้านนิติบัญญัติและด้านการบริหาร รวมทั้งมีความเห็นสอดคล้องกันในประเด็นการเมืองสำคัญ ๆ ของประเทศ ในขณะที่พรรคฝ่ายค้านก็ไม่มีความเข้มแข็ง

            การที่เขมรมีเสถียรภาพทางการเมืองและมีเสถียรภาพของรัฐบาล ย่อมเป็นเหตุปัจจัยชี้ขาดสำคัญที่สุด เพราะจะทำให้นโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในระยะยาวสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุดเหมือนอย่างประเทศที่มีปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองและปัญหาเสถียรภาพของรัฐบาล

10. สรุป

          เขมร เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจให้เจริญรุดหน้าไปในอนาคตได้ด้วยดี เพราะมีเหตุปัจจัยเกื้อหนุนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นด้านทรัพยากรธรรมชาติ แรงงานที่มีจำนวนมากและราคาต่ำ การมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งทั้งในด้านประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียน

          ที่สำคัญที่สุด คือ ปัจจุบันเขมรเป็นประเทศทีมีเสถียรภาพทางการเมืองและเสถียรภาพของรัฐบาลสูงมาก ซึ่งเป็นเหตุปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สามารถขับเคลื่อนประเทศตามนโยบายและยุทธศาสตร์ระยะยาวได้เป็นอย่างดี โดยไม่สะดุด

          สำหรับความคิดเห็นเพิ่มเติม กรุณาติดตามได้ในหัวข้อ ถาม-ตอบ สนุกกับดร.ชา ท้ายบทความนี้

ถาม-ตอบสนุก กับดร.ชา

          การถาม-ตอบสนุก กับดร.ชา มีจุดประสงค์เพื่อนำเสนอมุมมองในบางจุดที่ไม่ได้กล่าวไว้ในบทความโดยตรง เพื่อขยายความให้ท่านผู้อ่านมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาของบทความชัดเจนขึ้น

            ถาม-ทำไมจึงกล่าวว่า ประเทศเขมรเพิ่งจะมีโอกาสพัฒนาประเทศอย่างจริงจังนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2540

          ดร.ชา-เพราะก่อนหน้านี้เขมรต้องสู้รบกันเอง เป็นสงครามกลางเมืองตลอดมา ทำให้บ้านเมืองไม่มีความสงบสุข กล่าวคือ ภายหลังได้มีการเจรจายุติสงครามกลางเมืองเขมรสามฝ่าย และได้มีการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อปีพ.ศ.2536 ภายใต้การควบคุมขององค์การสหประชาชาติ ผลปรากว่า พรรคประชาชนกัมพูชา ของสมเด็จฮุน เซน เป็นฝ่ายแพ้เลือกตั้งแก่พรรคฟุนซินเปก ของสมเด็จกรม พระรณฤทธิ์ แต่สมเด็จฮุน เซน ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ทำให้ต้องมีการประนีประนอมจัดตั้งรัฐบาลผสม และมีนายกรัฐมนตรีสองคน

            จนกระทั่งปีพ.ศ.2540 สมเด็จฮุน เซน ได้ก่อการรัฐประหาร และมีการเลือกตั้งใหม่ หลังจากนั้น การเมืองของเขมรได้มีเสถียรภาพพร้อมกับการมีเสถียรภาพขงรัฐบาลเรื่อยมาจนกระทั่งทุกวันนี้  ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่าเขมรได้เริ่มมีการพัฒนาประเทศอย่างจริงจังหลังปีพ.ศ.2540 จนกระทั่งทุกวันนี้

            ถาม– ท่านคิดว่า อะไรเป็นสิ่งดึงดูดอยากให้นักลงทุนจากต่างประเทศอยากเข้าไปลงทุนในเขมร

            ดร.ชา– สิ่งที่จะสามารถดึงดูดให้นักลงทุนอยากไปลงทุนในเขมร ได้แก่ การมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ การมีแรงงานจำนวนมากและมีอัตราค่าแรงต่ำ การมีสิ่งจูงใจเป็นพิเศษจากรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการด้านภาษี และมาตรการด้านการให้เช่าที่ดินเป็นระยะเวลายาวนาน  และที่สำคัญที่สุด การที่บ้านเมืองมีความสงบ ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองเหมือนในอดีต

            ถาม- ท่านคิดว่า เป็นเพราะเหตุใด นครวัด  จึงเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

  ดร.ชา- เพราะนครวัด เป็นหมู่ปราสาทในประเทศเขมร นับเป็นศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะมีพื้นที่รวมมากกว่า 162.6 เฮกตาร์ (หนึ่งเฮกตาร์ เท่ากับ 0.01 ตารางกิโลเมตร) ได้สร้างขึ้นในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12  หรือเมื่อประมาณ 900 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดเสียมเรียบ โดยมีจุดประสงค์ให้เป็นเทวาลัยในศาสนาฮินดูเพื่อบูชาพระวิษณุ แต่เมื่อปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 ได้กลายเป็นวัดในศาสนาพุทธ  นครวัดเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา ดังปรากฏอยู่บนธงชาติ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญสูงสุดของเขมร

ดังนั้น หากใครได้มีโอกาสไปชมนครวัดแล้ว ย่อมจะเกิดความตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน และถ้ามีโอกาสก็คงอยากจะกลับไปเยือนอีก

ถาม- ในส่วนเกี่ยวกับนครธมล่ะ เป็นอย่างไร

ดร.ชา- ตามความจริงนครธมกับนครวัดอยู่ใกล้ ๆ กัน อายุเก่าแก่ใกล้เคียงกัน กล่าวคือ นครธม เป็นเมืองหลวงแห่งสุดท้ายและเป็นเมืองที่เข้มแข็งที่สุดของจักรวรรดิเขมร ปัจจุบันตั้งอยู่ในจังหวัดเสียมเรียบ สร้างขึ้นในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มีพื้นที่ครอบคลุม 9 ตารางกิโลเมตร อยู่ทางทิศเหนือของนครวัด

ใจกลางพระนคร  มีปราสาทบายน เป็นปราสาทหลัก ที่รายล้อมด้วยกลุ่มปราสาทและลานกลางแจ้งขนาดใหญ่

ลักษณะโดดเด่นของนครธม คือ พระพักตร์สี่หน้าของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7

นครธม มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อังกอร์ธม และถือเป็นส่วนหนึ่งของเมืองพระนคร

ดังนั้น เวลาไปเที่ยวนครวัด ก็มักจะต้องไปเที่ยวชมนครธมด้วย

ถาม- ท่านคิดว่า ทะเลสาบเขมรเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเขมร เพราะสาเหตุใด

ดร.ชา-เพราะทะเลสาบเขมรเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่มาก กล่าวคือ ทะเลสาบเขมรหรือโตนเลสาบ เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ตั้งอยู่ตรงกลางของประเทศเขมร มีพื้นที่ 7,500 ตารางกิโลเมตร มีความลึกโดยเฉลี่ย 10 เมตร และเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก น้ำจะท่วมพื้นที่โดยรอบ ทำให้พื้นทะเลสาบขยายกว้างออกไปอีกถึง 6 เท่า โดยมีส่วนยาวที่สุดของทะเลสาบ ยาว 250 กิโลเมตร และส่วนกว้างที่สุด 100 กิโลเมตร

  จะเห็นว่า ในยามปกติทะเลสาบเขมรมีพื้นที่ครอบคลุมถึง 7,500 ตารางกิโลเมตร คิดเป็น 5 เท่าของพื้นที่กรุเทพมหานครทีเดียว และถ้าเป็นฤดูน้ำหลาก พื้นที่จะขยายออกอีกถึง 6 เท่า

ดังนั้น หากใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวชม ก็จะรู้สึกตื่นตาตื่นใจในทำนองเดียวกันการได้ชมนครวัด นครธม อีกอย่างสถานที่ตั้งของนครวัด นครธม ก็อยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบเขมร เรียกว่า สามารถจัดโปรแกรมเที่ยวในโซนเดียวกันได้เลย

ถาม- ประเทศเพื่อนบ้านของเราล้วนเปิดบ่อนคาสิโนที่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อหารายได้เข้าประเทศ ทำไมประเทศไทยจึงไม่ทำอย่างเขาบ้าง ดีกว่าปล่อยให้คนไทยไปเข้าบ่อนนอกประเทศ

ดร.ชา-ในเรื่องนี้มีการถกเถียงกันในสังคมไทยมาเป็นระยะ ๆ แม้จะยอมรับว่า การเปิดบ่อนคาสิโนจะสามารถทำรายได้เข้าประเทศได้เป็นอย่างมาก แต่เกรงว่า จะทำให้สังคมไทยติดอยู่ในอบายมุข เพราะการควบคุมในเมืองไทยในทางปฏิบัติอาจจะทำได้ยาก เช่น ในขณะที่มีบ่อนคาสิโนที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก็ยังมีบ่อนการพนันเถื่อนเต็มบ้านเต็มเมือง

ในเรื่องนี้ อาจจะเปรียบเทียบกับเรื่องหวย แม้รัฐบาลจะมีการขายสลากกินแบ่งของรัฐบาลด้วยการพิมพ์จำนวนสลากให้มากเพื่อลดการเล่นหวยเถื่อน แต่ก็ยังมีหวยเถื่อนเต็มบ้านเต็มเมือง ควบคู่ไปกับสลากกินแบ่งของรัฐบาลอย่างที่ทุกคนทราบกันดี

ดร.ชา 369

11/07/21

แหล่งข้อมูล

1.วิกิพีเดีย, ประเทศกัมพูชา.

2.วิกิพีเดีย, โตนเลสาบ.

3.วิกิพีเดีย, นครวัด.

4. วิกิพีเดีย, นครธม.

Dr.Char

Mr.Chartri DireksriMr.Chartri Direksriดร.ชาตรี ดิเรกศรี (Dr.Chartri Direksri) เคยรับราชการเป็นนักปกครองในตำแหน่งปลัดอำเภอตรี เมื่อปีพ.ศ.2517 ผ่านการดำรงตำแหน่งนายอำเภอหลายอำเภอ เป็นปลัดจังหวัด และเกษียณอายุราชการในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อปีพ.ศ.2554 นอกจากนี้ยังเคยเป็นอาจารย์ผู้บรรยายพิเศษ หลักสูตรปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นเวลา 9 ปี

RELATED ARTICLES

หมอ พยายาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาคนติดเชื้อโรคโควิด-19

การบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉินกรณีโรคโควิด-19: ความรุนแรงของสถานการณ์ และแนวคิดในการแก้ปัญหา(1)

Share on Social Media facebook email 68 / 100 Powered by Rank Math SEO การมองการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉินกรณรีโรคโควิด-19 ด้วยประสบการณ์การบริหารเพื่อแก้ปัญหาโรคไข้หวัดนก ปีพ.ศ.2547  (1) อาจมองได้หลายมิติ ในตอนแรกนี้ จะขอกล่าวถึงมิติด้านความรุนแรงของสถานการณ์ และแนวคิดในการแก้ปัญหา 1.ความรุนแรงของสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด อาจมองความรุนแรงของสถานการณ์โรควิด-19 ได้เป็น 2 ระดับโลก และความรุนแรงของสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย             1.1ความรุนแรงของสถานการณ์โรคโควิด-19 ระดับโลก           ความรุนแรงของสถานการณ์โรคโควิด-19 (Covid-19) หรือโรคไวรัสโคโรนา (Virus Corona) ถือได้ว่า เป็นโรคระบาดจากคนไปสู่คนและแพร่กระจายไปทั่วโลก โดยเริ่มต้นจากประเทศจีนไปสู่อีกหลายประเทศอย่างรวดเร็วทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อ…

พระพุทธเจ้า มีคาถารักษาโรคเรื้อรังได้หรือไม่ (16)(New***) 2

พระพุทธเจ้า มีคาถารักษาโรคเรื้อรังได้หรือไม่ (16)(New***)

Share on Social Media facebook email 90 / 100 Powered by Rank Math SEO “พระพุทธเจ้า มีคาถารักษาโรคเรื้อรังได้หรือไม่” นับเป็นบทความลำดับที่ 16 ของหมวด 7 เรื่องเล่า ประสบการณ์ปฏิบัติธรรม เพื่อคลายทุกข์ มีเนื้อหาประกอบด้วย ความนำ  พระพุทธเจ้ามีหลักคำสอนว่าอย่างไร   ประเภทของโรค โรคเรื้อรัง โรคเรื้อรังที่น่าสนใจ แนวทางในการรักษาโรคเรื้อรัง คาถารักษาโรคทุกโรคของพระพุทธเจ้า ทำไมจึงควรนำคาถานี้ไปใช้ในการรักษาโรคเรื้อรัง ประสบการณ์ในการนำคาถานี้มาใช้ ขั้นตอนและแนวทางในการนำคาถานี้ไปใช้ การบริกรรมคาถา การอธิษฐานจิต การสั่งจิตใต้สำนึก การสร้างมโนภาพ  ตัวอย่างการอธิษฐานจิตรวมทุกโรค ตัวอย่างการอธิษฐานจิตเฉพาะโรค สรุป ถาม-ตอบสนุก กับดร.ชา 369          …

ไต้หวัน มีความเจริญมากน้อยเพียงใด (12) 4

ไต้หวัน มีความเจริญมากน้อยเพียงใด (12)

Share on Social Media facebook email 87 / 100 Powered by Rank Math SEO “ไต้หวัน มีความเจริญมากน้อยเพียงใด” เป็นบทความลำดับที่ 12 ของหมวด 14 เรื่องเล่า ประเทศเอเชียตะวันออก มีหัวข้อ ดังนี้ ความนำ  ประวัติความเป็นมาของไต้หวันโดยย่อ ตำแหน่งที่ตั้งและขนาดพื้นที่ ประชากร (จำนวน เชื้อชาติ และศาสนา) การปกครอง เมืองหลวง ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ  ตัวชี้วัดความเจริญทางเศรษฐกิจ ตัวชี้วัดความเจริญในด้านอื่น ๆ   สรุป ถาม-ตอบสนุก กับดร.ชา 36           “ไต้หวันหรือจีนไทเป เป็นประเทศที่ได้ชื่อว่า เป็นเสือตัวหนึ่งในบรรดาสี่ตัวของเอเชีย…

เกาหลีเหนือ เป็นประเทศเผด็จการสมบูรณ์แบบ (11) 5

เกาหลีเหนือ เป็นประเทศเผด็จการสมบูรณ์แบบ (11)

Share on Social Media facebook email 87 / 100 Powered by Rank Math SEO “เกาหลีเหนือ เป็นประเทศเผด็จการสมบูรณ์แบบ” เป็นบทความลำดับที่ 11 ของหมวด 14 เรื่องเล่า ประเทศเอเชียตะวันออก  มีหัวข้อประกอบด้วย ความนำ ตำแหน่งที่ตั้งของเกาหลีเหนือ  ขนาดพื้นที่ ประชากร ประวัติความเป็นมา การเมืองการปกครอง  อุดมการณ์ของชาติ ตระกูลคิม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ สิทธิมนุษยชน การทหาร สรุป ถาม-ตอบสนุก กับดร.ชา 369 “ประเทศเกาหลีเหนือ แม้เป็นประเทศขนาดเล็ก มีประชากรไม่มาก และมีฐานะยากจน แต่ก็สามารถเป็นประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ และมีความแข็งแกร่งด้านการทหาร…

6 COMMENTS

  1. อาจารย์คะ จังหวัดเสียมเรียบ มีเศรษฐกิจเป็นอย่างไรคะ

    1. เศรษฐิกิจขอ
      งเสียมเรียบ ดีมาก เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว มีนครวัด และนครธมซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกตั้งอยู่ ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นจังหวัดหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเขตทะเลสาบเขมร ซึ่งเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของเขมร

  2. รายได้ประชากรของกัมพูชา เฉลี่ยต่อหัวเท่าไหร่คะ

  3. ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายเขมร กลุ่มชาติพันธุ์มีน้อยมาก จึงไม่เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติเกิดขึ้น หรืออาจารย์มีความคิดเห็นอย่างไรคะ

    1. คำตอบชัดเจนอยู่แล้ว แต่อาจมีปัญหาทางด้านอุดมการณ์หรือลัทธิทางการเมืองขัดแย้งกัน

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Share on Social Media
%d bloggers like this: