75 / 100

มูลเหตจูงใจในการนำในการเขียนบทความชุด เรื่องเล่าความสนุกกับประสบการณ์อันยาวในการรู้จักตนเองและคนรอบข้าง มีอยู่ 5 ประการ กล่าวคือ ข้อแรก ผมได้พิสูจน์ด้วยตนเองตามหลักของการวิจัยวิธีนิรนัย (Deduction)  มาเป็นระยะเวลายาวนานร่วม 45 ปีแล้วเห็นว่า การรู้จักอุปนิสัยบุคคลจากตัวเลขวันที่ที่เกิดเชื่อถือได้ ข้อสอง การรู้จักอุปนิสัยบุคคล จะทำให้เราทราบว่าควรจะปรับรูปแบบความสัมพันธ์กับบุคคลนั้นให้ดีได้อย่างไร ข้อสาม อุปนิสัยบ่งบอกพฤติกรรมและเส้นทางในอนาคตของบุคคล ข้อสี่ หากปรับอุปนิสัยได้ เส้นทางในอนาคตก็อาจจะเปลี่ยนได้ และข้อสุดท้าย คืออาจจะมีข้อจำกัดในการปรับอุปนิสัย

1.ประสบการณ์จากการพิสูจน์ความจริงด้วยวิธีการนิรนัย (Deduction)

การพิสูจน์ความจริงด้วยวิธีการนิรนัย หมายความว่า กรณีมีหลักการในบางเรื่อง ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปอยู่แล้ว แต่เรามีความสงสัยว่า หลักการดังกล่าวจะยังเป็นความจริงอยู่ไหม เราจึงกำหนดกลุ่มตัวอย่างที่จะใช้พิสูจน์ความจริงดังกล่าว ต่อจากนั้น ก็เก็บรวบรวมข้อมูล และนำข้อมูลมาวิเคราะห์ว่า เป็นไปตามหลักการที่เราต้องการจะพิสูจน์หรือไม่ เพียงใด

การพิสูจน์ความจริงแบบนิรนัย (Deduction) คือ การพิสูจน์ว่าหลักทั่วไปที่มีอยู่ ถูกต้องหรือเชื่อถือได้หรือไม่
การพิสูจน์ความจริงแบบนิรนัย (Deduction) คือ การพิสูจน์ว่าหลักทั่วไปที่มีอยู่ ถูกต้องหรือเชื่อถือได้หรือไม่

            หากผลการพิสูจน์ปรากฏว่า หลักการดังกล่าวถูกต้อง ก็เท่ากับเป็นการยืนยันความถูกต้องของหลักการนั้น แต่ถ้าผลการพิสูจน์ออกมาว่า หลักการดังกล่าวไม่ถูกต้อง ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างองค์ความรู้ใหม่ขึ้นมา

            ผมเองได้ใช้เวลาร่วม 45 ปี ในการพิสูจน์ความจริงว่า ตามตำราขอไคโรที่กล่าวถึงอุปนิสัยของบุคคลย่อมแตกต่างกันไปตามตัวเลขวันที่ที่เกิด 1-9 ด้วยการสังเกตพฤติกรรมของคนใกล้ชิดหรือคนรอบข้าง รวมทั้งสอบถามเจ้าตัว  ตลอดจนศึกษาวันที่ที่เกิดของบุคคลสำคัญจากประวัติศาสตร์บ้าง ดูวันที่ที่เกิดของบุคคลสำคัญในหน้าหนังสือพิมพ์บ้าง ยังไม่พบว่า มีอุปนิสัยของบุคคลตามเลขวันที่ที่เกิด หมายยเลข 1-9 รายใดที่ผิดแผกไปจากตำราของไคโรลย     ดังนั้น ผมจึงมั่นใจในความถูกต้องในหลักของการดูอุปนิสัยบุคคลตามเลขวันที่ที่เกิดของไคโร  ทำให้อยากจะนำออกเผยแพร่ให้ท่านผู้สนใจหรือท่านผู้อ่าน ได้ลองอ่านและศึกษาดูบ้าง                                                                                                                                                            

            หากยังมิได้พิสูจน์ความถูกต้องของการดูอุปนิสัยบุคคลตามเลขวันที่ที่เกิดของไคไรดังกล่าว ผมคงไม่กล้าเขียนบทความชุดนี้แน่ เพราะผมก็เกรงถูกกล่าวหาเหมือนกันว่า งมงาย ไร้สาระ แต่ผมไม่ได้เรียกร้องให้ท่านผู้อ่านเชื่อตามผมนะ เรื่องนี้ ต้องลองพิสูจน์ดูด้วยตัวท่านเอง

2.การรู้จักอุปนิสัยนำไปสู่การปรับความสัมพันธ์ที่ดี

การมีความสัมพันธ์อันดีกับคนในครอบครัว เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน หรืออาจกล่าวรวม ๆ ได้ว่า คนรอบข้างนั่นเอง ผมคิดว่า คงเป็นที่ต้องการของทุกคน เพราะการมีความสัมพันธ์อันดีกับคนรอบข้างย่อมนำมาซึ่งความสุข ในทางตรงกันข้าม การมีความขัดแย้งกันย่อมนำมาซึ่งความทุกข์

อุปนิสัย คือความเคยชิน
อุปนิสัย คือความเคยชิน

            ปกติการที่จะรู้จักอุปนิสัยคนใดคนหนึ่ง เราต้องใช้เวลานานพอสมควรจึงจะสามารถเรียนรู้อุปนิสัยของบุคคลนั้นได้ และไม่แน่นักว่า อุปนิสัยที่เรารู้ด้วยการสังเกตพฤติกรรมของบุคคลนั้น จะเป็นอุปนิสัยที่แท้จริงหรือไม่ แต่อุปนิสัยที่เรารู้จากหลักของไคโรจะเป็นอุปนิสัยที่แท้จริง

            ตัวอย่าง

          หากท่านมีเพื่อนร่วมงานเป็นบุคคลหมายเลข 5 ต้องถือว่า ท่านโชคดี เพราะบุคคลหมายเลข 5 เป็นคนกันเอง มีความเป็นมิตรกับคนรอบข้าง ท่านย่อมสามารถเป็นมิตรกันได้ง่าย  

           แต่ถ้ามีเพื่อนร่วมงานเป็นบุคคลหมายเลข 1 เขาจะพยายามเป็นผู้นำของท่าน ชอบออกคำสั่งให้ท่านปฏิบัติตาม อาจจะทำให้ท่านรู้สึกอึดอัด ถ้าท่านเป็นชอบอยู่อย่างอิสระ ดังนั้น หากท่านไม่ค่อยชอบการออกคำสั่งของเขา ท่านอาจเลือกที่จะปลีกตัวออกอยู่ห่าง ๆ

3.อุปนิสัยบ่งบอกพฤติกรรมและเส้นทางในอนาคต

3.1 อุปนิสัยบ่งบอกพฤติกรรม

          การที่บุคคลจะมีพฤติกรรมไปในลักษณะใด ย่อมเกิดจากอุปนิสัยที่แท้จริงของบุคคลนั้นว่า เป็นคนเช่นไร เช่น
อุปนิสัย บ่งบอกพฤติกรรม
อุปนิสัย บ่งบอกพฤติกรรม

          บุคคลหมายเลข 1 เป็นคนที่มีความทะเยอทะยาน ต้องการเป็นใหญ่ และมีความคิดริเริ่ม พฤติกรรมในการแสดงออกมักจะออกมาในรูปแบบของการชอบออกคำสั่งให้คนนี้  คนนั้น ทำอย่างนี้อย่างนั้น ชอบการรวมผู้คนให้เข้ามาเป็นบริวาร และชอบแสวงหาโอกาสและช่องทางที่จะทำให้ตนเจริญก้าวหน้าเป็นใหญ่เป็นโตต่อไป

            บุคคลหมายเลข 2 เป็นคนที่มีอารมณ์สุนทรีย์ มีจิตใจดี ไม่สนใจในเรื่องของวัตถุมากนัก ชอบการประนีประนอม ไม่ชอบการแตกหัก

         3.2 อุปนิสัยบ่งบอกเส้นทางในอนาคต

          เมื่ออุปนิสัยกำหนดพฤติกรรมของบุคคลแล้ว ตัวพฤติกรรมนั่นแหละที่จะบ่งบอกอนาคตของบุคคลนั้นว่าจะไปในทิศทางใด จะเจริญก้าวหน้าหรือไม่ เพียงใด

พฤติกรรมที่เป็นอยู่่บ่งบอกความสำเร็จในอนาคต
พฤติกรรมที่เป็นอยู่่บ่งบอกความสำเร็จในอนาคต

            ตัวอย่าง

            บุคคลหมายเลข 3 เป็นบุคคลที่มีความทะเยอทะยานเช่นเดียวบุคคลหมายเลข 1 และมีความมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อ ต้องการสิ่งใดก็จะไม่ละความพยายาม เชื่อได้ว่า บุคคลเช่นนี้จะประสบความสำเร็จในชีวิตแน่นอน หากรับราชการก็จะได้เป็นใหญ่เป็นโต เช่น หากรับราชการเป็นนักปกครอง อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะได้เป็นนายอำเภอ เป็นต้น

            บุคคลหมายเลข 5 เป็นบุคคลที่คล่องแคล่วในการประสานงาน สามารถเข้าได้กับคนทุกระดับ เชื่อว่า จะเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน

4.ประสบการณ์การปรับอุปนิสัยเพื่อเปลี่ยนแปลงเส้นทางในอนาคต

พฤติกรรมของบุคคลเป็นตัวกำหนดเส้นทางในอนาคต แต่พฤติกรรมของบุคคลย่อมเกิดจากอุปนิสัยว่า เป็นคนเช่นไร ดังนั้น ถ้าหากอยากจะเปลี่ยนแปลงเส้นทางในอนาคต ก็จะต้องเริ่มด้วยการปรับอุปนิสัยบางอย่างที่เป็นปัญหาหรือเป็นอุปสรรคต่อความของเรา เมื่อปรับอุปนิสัยบางอย่างได้ก็จะทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และเมื่อพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เส้นทางในอนาคตก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่เราต้องการได้เช่นกัน

หากไม่แน่ใจว่า จะสามารถเปลี่ยนอุปนิสัยที่ไม่ดีบางอย่างของเราที่เป็นอุปสรรคต่อความเจริญก้าวหน้าของชีวิต ลองไปอธิษฐานต่อหน้าพระประธานในโบสต์ดู
หากไม่แน่ใจว่า จะสามารถเปลี่ยนอุปนิสัยที่ไม่ดีบางอย่างของเราที่เป็นอุปสรรคต่อความเจริญก้าวหน้าของชีวิต ลองไปอธิษฐานต่อหน้าพระประธานในโบสต์ดู

            ตัวอย่าง

            ในอดีตผมเคยสูบบุหรี่มาก่อน ผมได้ใช้เวลาช่วงพักร้อน 10 วัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการอยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อนร่วมงานที่ชอบสูบบุหรี่อยู่่ใกล้ ๆ ผมได้พยายามข่มใจอย่างเต็มที่โดยไม่ยอมแตะบุหรี่เลยในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งทำให้สามารถเลิกบุุหรี่ได้อย่างเด็ดขาดนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2526 จนกระทั่งทุกวันนี้

การปรับอุปนิสัยที่ไม่ดีบางอย่างซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความเจริญก้าวหน้าของเรา แม้อาจจะยาก แต่ถ้าฝืนใจทำสักระยะก็อาจจะเกิดความเคยชิน กลายเป็นอุปนิสัยใหม่ได้ อย่างที่เรียกกันในยุคโควิด-19 ระบาด ว่า นิวนอร์มอล (New Normal) หรือวิถีชีวิตใหม่นั่นเอง

5.ข้อจำกัดของเส้นทางในอนาคต 

แม้บุคคลหมายเลขเดียวกันจะมีอุปนิสัยคล้าย ๆ กัน  แต่ความสำเร็จในอนาคตอาจจะแตกต่างกันไป เนื่องจากมีข้อจำกัดอย่างน้อย 2 ประการ คือ

          5.1สภาวะแวดล้อม

          การที่บุคคลได้เกิดหรือได้เจริญเติบโตในสภาวะแวดล้อมที่แตกต่างกัน แม้อาจจะมีอุปนิสัยใกล้เคียงกัน แต่เส้นทางไปสู่ความสำเร็จในอนาคตอาจจะแตกต่างกัน เพราะการมีปัจจัยแวดล้อมที่แตกต่างกัน ย่อมทำให้ชีวิตบุคคลมีโอกาสและอุปสรรคที่แตกต่างกัน เช่น บุคคลหมายเลข 1 หากเกิดในถิ่นโจร เมื่อโตขึ้นก็อาจจะได้เป็นหัวหน้าโจร แต่ถ้าเกิดในครอบครัวของคนทั่วไป ย่อมจะมีโอกาสเจริญก้าวหน้าขึ้นไปเป็นหัวหน้าหรือนายคน

            5.2 บุญวาสนา

          การที่คนเราจะเจริญก้าวหน้า มั่งมีศรีสุข มีเกียรติและศักดิ์ศรีไปได้มากน้อยเพียงใด บุญวาสนาคือตัวขีดจำกัด หมายความว่า คนที่เคยสร้างบุญกุศลในชาติปางก่อนมามากกว่า ย่อมมีทุนเดิมที่เหนือกว่าคนที่ได้สร้างบุญกุศลไว้น้อยกว่า เหมือนดังภาษิตจีนที่ว่า “ ความพยายามเป็นของมนุษย์ แต่ความสำเร็จเป็นของฟ้า ”

            มีกรณีตัวอย่างเมื่อเร็ว ๆนี้ มีคนขับแท้กซี่รายหนึ่ง เจอพิษโรคโควิด-19 ไม่มีงานทำเพราะไม่มีผู้โดยสารเรียกรถ ทำให้ไม่มีเงินไปจ่ายค่างวดรถ ลูกเต้าที่มีอยู่ ก็ไม่อาจจะช่วยเหลือได้ จึงคิดอยากจะฆ่าตัวตาย เคราะห์ดีมีคนช่วยไว้ทัน และได้มีคนนำเรื่องราวอันเศร้าสร้อยของคนขับแท้กซี่ผู้น่าสงสารคนนั้น เผยแพร่อออกอากาศและทางสื่อสังคม ทำให้มีคนสงสารและเห็นใจเป็นจำนวนมาก จึงมีคนโอนเงินเข้าบัญชีในคืนเดียวได้เงินเข้าบัญชีมากกว่า 8 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่า คนขับแท้กซี่คนนี้ต้องมีบุญเก่ามาก แทนที่จะตายเพราะฆ่าตัวตาย แต่กลับไม่ตาย ตรงกันข้ามกลับมีคนช่วยไว้ทัน แถมยังมีคนเมตตาสงสารอย่างล้นหลาม แค่คืนเดียวมีคนโอนเงินเข้าบัญชีมากกว่า 8 ล้านบาท

ท่านผู้อ่านว่า เป็นเรื่องเหลือเชื่อไหม

6.สรุป

          มูลเหตุจูงใจในการเขียนบทความชุด เรื่องเล่าความสนุกกับประสบการณ์อันยาวนานในการรู้จักตนเองและคนรอบข้าง มีอยู่ 5 ประการ คือ ข้อแรก ผมได้พิสูจน์แล้วว่า หลักการดูอุปนิสัยบุคคลจากเลขวันที่ที่เกิดของไคโร ที่มีมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 เป็นเรื่องที่เชื่อถือได้ โดยผมได้ใช้เวลาพิสูจน์มาเป็นเวลายาวนานร่วม 45 ปี   ข้อที่สอง การรู้จักอุปนิสัยที่แท้จริงของบุคคลช่วยให้เราสามารถปรับความสัมพันธ์อันดีกับบุคคลเหล่านั้นได้ ข้อที่สาม การรู้จักอุปนิสัยจะทำให้รู้จักพฤติกรรมและเส้นทางในอนาคตของบุคคล ข้อสี่ หากอยากเปลี่ยนแปลงเส้นทางอนาคต จะต้องเปลี่ยนแปลงที่อุปนิสัยให้ได้ และข้อสุดท้าย คือข้อจำกัดของเส้นทางในอนาคต

            ผมคิดว่า บทความนี้คงจะทำให้ท่านผู้อ่านเข้าใจได้ดีว่า ทำไมผมจึงอยากเขียนบทความชุดนี้ออกเผยแพร่ ทั้ง ๆ ที่อาจจะดูเป็นการเสี่ยงอยู่บ้างต่อการทำให้คนบางคนหรือบางกลุ่มที่ไม่เข้าใจและไม่ยอมที่จะเข้าใจ ตำหนิติเตียนหรือดูหมิ่นดูแคลนเอาว่า เป็นเรื่องไร้เหตุผลและไร้สาระ มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะหลงเชื่อ

ก่อนจะสรุปว่า ถูกต้องหรือไม่่ ท่านผู้อ่านไม่คิดจะศึกษาและทดสอบกับคนรอบข้างบ้างหรือ

          พบกันในบทความต่อไป เรื่องราวของบุคคลหมายเลข 1

          ขอบคุณนะครับ

           ดร.ชา / 6 พฤษภาคม 2563

Dr.Char

Mr.Chartri DireksriMr.Chartri Direksriดร.ชาตรี ดิเรกศรี (Dr.Chartri Direksri) เคยรับราชการเป็นนักปกครองในตำแหน่งปลัดอำเภอตรี เมื่อปีพ.ศ.2517 ผ่านการดำรงตำแหน่งนายอำเภอหลายอำเภอ เป็นปลัดจังหวัด และเกษียณอายุราชการในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อปีพ.ศ.2554 นอกจากนี้ยังเคยเป็นอาจารย์ผู้บรรยายพิเศษ หลักสูตรปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นเวลา 9 ปี

RELATED ARTICLES

หมอ พยายาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาคนติดเชื้อโรคโควิด-19

การบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉินกรณีโรคโควิด-19: ความรุนแรงของสถานการณ์ และแนวคิดในการแก้ปัญหา(1)

Share on Social Media facebook email 68 / 100 Powered by Rank Math SEO การมองการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉินกรณรีโรคโควิด-19 ด้วยประสบการณ์การบริหารเพื่อแก้ปัญหาโรคไข้หวัดนก ปีพ.ศ.2547  (1) อาจมองได้หลายมิติ ในตอนแรกนี้ จะขอกล่าวถึงมิติด้านความรุนแรงของสถานการณ์ และแนวคิดในการแก้ปัญหา 1.ความรุนแรงของสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด อาจมองความรุนแรงของสถานการณ์โรควิด-19 ได้เป็น 2 ระดับโลก และความรุนแรงของสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย             1.1ความรุนแรงของสถานการณ์โรคโควิด-19 ระดับโลก           ความรุนแรงของสถานการณ์โรคโควิด-19 (Covid-19) หรือโรคไวรัสโคโรนา (Virus Corona) ถือได้ว่า เป็นโรคระบาดจากคนไปสู่คนและแพร่กระจายไปทั่วโลก โดยเริ่มต้นจากประเทศจีนไปสู่อีกหลายประเทศอย่างรวดเร็วทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อ…

พระพุทธเจ้า มีคาถารักษาโรคเรื้อรังได้หรือไม่ (16)(New***) 2

พระพุทธเจ้า มีคาถารักษาโรคเรื้อรังได้หรือไม่ (16)(New***)

Share on Social Media facebook email 90 / 100 Powered by Rank Math SEO “พระพุทธเจ้า มีคาถารักษาโรคเรื้อรังได้หรือไม่” นับเป็นบทความลำดับที่ 16 ของหมวด 7 เรื่องเล่า ประสบการณ์ปฏิบัติธรรม เพื่อคลายทุกข์ มีเนื้อหาประกอบด้วย ความนำ  พระพุทธเจ้ามีหลักคำสอนว่าอย่างไร   ประเภทของโรค โรคเรื้อรัง โรคเรื้อรังที่น่าสนใจ แนวทางในการรักษาโรคเรื้อรัง คาถารักษาโรคทุกโรคของพระพุทธเจ้า ทำไมจึงควรนำคาถานี้ไปใช้ในการรักษาโรคเรื้อรัง ประสบการณ์ในการนำคาถานี้มาใช้ ขั้นตอนและแนวทางในการนำคาถานี้ไปใช้ การบริกรรมคาถา การอธิษฐานจิต การสั่งจิตใต้สำนึก การสร้างมโนภาพ  ตัวอย่างการอธิษฐานจิตรวมทุกโรค ตัวอย่างการอธิษฐานจิตเฉพาะโรค สรุป ถาม-ตอบสนุก กับดร.ชา 369          …

ไต้หวัน มีความเจริญมากน้อยเพียงใด (12) 4

ไต้หวัน มีความเจริญมากน้อยเพียงใด (12)

Share on Social Media facebook email 87 / 100 Powered by Rank Math SEO “ไต้หวัน มีความเจริญมากน้อยเพียงใด” เป็นบทความลำดับที่ 12 ของหมวด 14 เรื่องเล่า ประเทศเอเชียตะวันออก มีหัวข้อ ดังนี้ ความนำ  ประวัติความเป็นมาของไต้หวันโดยย่อ ตำแหน่งที่ตั้งและขนาดพื้นที่ ประชากร (จำนวน เชื้อชาติ และศาสนา) การปกครอง เมืองหลวง ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ  ตัวชี้วัดความเจริญทางเศรษฐกิจ ตัวชี้วัดความเจริญในด้านอื่น ๆ   สรุป ถาม-ตอบสนุก กับดร.ชา 36           “ไต้หวันหรือจีนไทเป เป็นประเทศที่ได้ชื่อว่า เป็นเสือตัวหนึ่งในบรรดาสี่ตัวของเอเชีย…

เกาหลีเหนือ เป็นประเทศเผด็จการสมบูรณ์แบบ (11) 5

เกาหลีเหนือ เป็นประเทศเผด็จการสมบูรณ์แบบ (11)

Share on Social Media facebook email 87 / 100 Powered by Rank Math SEO “เกาหลีเหนือ เป็นประเทศเผด็จการสมบูรณ์แบบ” เป็นบทความลำดับที่ 11 ของหมวด 14 เรื่องเล่า ประเทศเอเชียตะวันออก  มีหัวข้อประกอบด้วย ความนำ ตำแหน่งที่ตั้งของเกาหลีเหนือ  ขนาดพื้นที่ ประชากร ประวัติความเป็นมา การเมืองการปกครอง  อุดมการณ์ของชาติ ตระกูลคิม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ สิทธิมนุษยชน การทหาร สรุป ถาม-ตอบสนุก กับดร.ชา 369 “ประเทศเกาหลีเหนือ แม้เป็นประเทศขนาดเล็ก มีประชากรไม่มาก และมีฐานะยากจน แต่ก็สามารถเป็นประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ และมีความแข็งแกร่งด้านการทหาร…

4 COMMENTS

  1. ดีจริงค่ะท่านอาจารย์ สรุปให้ว่าได้ลองทดสอบมาแล้ว

    1. เรื่องแบบนี้เป็นดาบสองคม หากเราไม่แน่ใจก็ไม่ควรเอามาเผยแพร่

  2. มนุษย์มีอุปนิสัย และพฤติกรรมที่ซับซ้อน ยากที่จะมีสูตรสำเร็จมากำหนดให้ผลออกมาเหมือนกันได้ บุญวาสนา จึงเป็นคำตอบที่ดีที่ทำให้คลายความผิดหวังบางประการของมนุษย์ลงได้ครับ

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Share on Social Media
%d bloggers like this: