บทความ “นิวรณ์ 5 แก้ได้ด้วยพระกรรมฐานหลวง นับเป็นบทความลำดับที่ 11 ของหมวด เรื่องเล่า ประสบการณ์ ในการปฏิบัติธรรม เพื่อคลายทุกข์ โดยจะกล่าวถึง นิวรณ์ 5 ของผมคืออะไร อุบาสิกา พิมพา อุ้มบุญ คือใคร ทำไมพระกรรมฐานหลวงจึงสามารถแก้นิวรณ์ 5 ของผมได้ สรุป และคุยกับดร.ชา
อนึ่งในบทความที่แล้ว คือ บทความ (10) ผมได้เล่าถึง ธรรมะ ที่ใช้ในการพิจารณาธรรมในธรรม เพื่อคลายทุกข์
Table of Contents
1.ความนำ
ท่านผู้อ่านหลายท่านอาจจะสงสัยว่า การที่ผมสามารถเขียนบทความหมวด เรื่องเล่า ประสบการณ์ การปฏิบัติธรรม เพื่อคลายทุกข์ มาให้ท่านอ่านตามลำดับ ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ใช่พระหรือนักบวชแต่อย่างใด ผมมีครูบาอาจารย์สอนการนั่งสมาธิให้โดยตรงหรือไม่
ผมขอตอบว่า ผมมีครูอาจารย์สอนการนั่งสมาธิให้โดยตรงอย่างแน่นอน เพราะลำพังหนังสือธรรมะที่ผมหามาอ่านและนำมาเป็นคู่มือในการฝึกปฏิบัติธรรม จะไม่สามารถตอบคำถามผมได้ในกรณีมีข้อสงสัย
ครูบาอาจารย์ผู้สอนการนั่งสมาธิให้ผมคือ อุบาสิกาหรือแม่ชี พิมพา อุ้มบุญ
ดังนั้น เนื้อหาของบทความนี้ จะมุ่งเน้นในการเล่าเรื่องให้ท่านทราบว่า นิวรณ์ 5 ของผมคืออะไร และทำไมการเรียนพระกรรมฐานหลวงจึงสามารถแก้นิวรณ์ 5 ดังกล่าวให้ผมได้
2.นิวรณ์ 5 ของผม คืออะไร
ในบทความที่แล้ว คือ บทความ (10) ผมได้เล่าให้ท่านผู้อ่านทราบว่า ธรรมะ ข้อหนึ่งที่นำมาใช้ในการพิจารณาธรรมในธรรม เพื่อคลายทุกข์ คือ นิวรณ์ 5 ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการนั่งสมาธิหรือการปฏิบัติธรรม ได้แก่
กามฉันทะ ได้แก่ ความพอใจ ติดใจ หลงใหลในกามโลกีย์ทั้งปวง
พยาบาท ได้แก่ ความไม่พอใจ การผูกใจเจ็บ จากการที่ไม่ได้สมดั่งใจปรารถนาในโลกียะสมบัติทั้งปวง
ถีนมิทธะ ได้แก่ ความขี้เกียจ ท้อแท้ อ่อนแอ ใจไม่สู้
อุทธัจจะกุกกุจจะ ได้แก่ การมีความคิดสับสนอยู่ตลอดเวลา ไม่สงบนิ่ง
วิจิกิจฉา ได้แก่ การมีความลังเลสงสัยในหลักธรรมคำสอนบางอย่างว่า จริงหรือไม่ ใช่หรือไม่ใช่
นิวรณ์ของผม คืออะไร
นิวรณ์ของผมก็คือ วิจิกิจฉา หรือความลังเลสงสัยในหลักธรรมคำสอนเกี่ยวกับการมีอยู่ของชาติภพต่าง ๆ ว่า มีอยู่จริงหรือไม่
ก่อนจะได้เรียนการนั่งสมาธิแบบพระกรรมฐานหลวง ผมก็คงไม่แตกต่างไปจากท่านผู้อ่านทั้งหลายที่มีความสงสัยอยู่หลายเรื่อง เช่น

นรก สวรรค์ มีจริงหรือไม่
บุญบาป มีจริงหรือไม่
ชาติก่อน ชาติหน้ามีจริงหรือไม่
มนุษย์ต่างดาว มีจริงหรือไม่
เทวดา เทพ พรหม มีจริงหรือไม่ รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร และสถิตอยู่ ณ ที่ใด มีวิมานอย่างใด
เทพเจ้ามีจริงหรือไม่
ผี วิญญาณ มีจริงหรือไม่
เปรต อสูรกาย มีจริงหรือไม่
ครุฑ พญานาค มีจริงหรือไม่

นอกจากมีความสงสัยในประเด็นต่าง ๆ ข้างต้นแล้ว ยังมีความสงสัยเรื่องราวในหนังสือวรรณคดีไทย เช่น รามเกียรติ์ ไตรภูมิพระร่วง ว่า มีมูลความจริงหรือไม่เพียงใด
ความสงสัยทั้งหลายมีอยู่ในใจของผมตลอดมา ทำให้ผมอยากจะทราบตอบคำตอบที่ถูกต้องและชัดเจน
3.อุบาสิกาหรือแม่ชี พิมพา อุ้มบุญ คือใคร
แม่ชีพิมพา เป็นครูสอนพระกรรมฐานหลวงแก่บุคคลทั่วไป ตลอดจนพระภิกษุสามเณรทั่วประเทศ สำเร็จหลักสูตรพระอภิธรรมบัณฑิตจากสำนักวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร ปกติในช่วงออกพรรษา แม่ชีจะไม่อยู่ที่วัดกำแพง แต่จะเดินทางไปสอนพระกรรมฐานหลวงตามวัดวาต่าง ๆ ทั่วประเทศ แต่พอถึงช่วงเข้าพรรษา แม่ชีพิมพาก็จะกลับมาอยู่ที่วัด
หากใครต้องการเรียนพระกรรมฐานหลวงที่วัดกำแพงในช่วงเข้าพรรษา แม่ชีพิมพาจะอยู่ตลอด แต่ปัจจุบันนี้ แม่ชีพิมพาได้ละสังขารไปแล้วเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2561 สิริอายุได้ 85 ปี โดยผมได้มีโอกาสไปกราบศพของท่านที่กุฏิประชาชื่น วัดกำแพง เมื่อปลายปีพ.ศ.2561 ซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์ว่า ศพของท่านไม่เน่าเปื่อยแต่อย่างใด
ปัญหาคือ ผมรู้จักแม่ชีพิมพา อุ้มบุญ ได้อย่างไร ผมขอเล่าให้ท่านทราบดังนี้
หลังจากจบการศึกษาอบรมโรงเรียนนายอำเภอ วิทยาลัยการปกครอง กรมการปกครองเมื่อเดือนกันยายน 2534 ผมได้เดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ ที่ทำการปกครองจังหวัด ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อรอรับคำสั่งกรมการปกครองว่า จะแต่งตั้งให้ผมไปดำรงตำแหน่งปลัดอำเภออาวุโส ที่อำเภอใด และจังหวัดใด ก่อนที่จะได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายอำเภอในปีต่อไป
ในช่วงเวลาของการรอรับคำสั่งดังกล่าว ทำให้ผมมีเวลาว่าง เผอิญในช่วงเวลานั้น ผมได้อ่านหนังสือพวกโลกทิพย์หรือโลกลี้ลับ ได้พบบทความหนึ่งที่ทำให้ผมสนใจมาก คือ บทความเกี่ยวกับการเปิดสอนพระกรรมฐานหลวง โดย อุบาสิกาหรือแม่ชี พิมพา อุ้มบุญ ณ กุฏิประชาชื่น วัดกำแพง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
บทความดังกล่าว ได้กล่าวถึงการสอนพระกรรมฐานหลวงว่า เป็นพระกรรมฐานที่สอนกันในพรหมโลก หากใครเคยได้ฌานมาก่อนในอดีตชาติ แม่ชีพิมพา จะต่อฌานเก่าให้ ซึ่งจะทำให้การนั่งสมาธิสามารถเข้าถึงฌานได้เร็ว และยิ่งกว่านั้น บทความดังกล่าวยังบอกด้วยว่า การนั่งพระกรรมฐานหลวงเหมาะสำหรับผู้ครองเรือนเพราะยังเป็นขั้นโลกียะอยู่
เมื่อได้อ่านบทความดังกล่าวแล้ว ทำให้ผมอยากเข้าไปเป็นลูกศิษย์เรียนพระกรรมฐานหลวงกับแม่ชี พิมพา ทันที เพราะผมมีข้อสงสัยหลายอย่างเกี่ยวกับวิธีการและผลของการนั่งสมาธิ ซึ่งผมไม่อาจจะหาคำตอบได้จากการอ่านหนังสือสอนธรรมะแต่อย่างเดียว
4.ทำไมพระกรรมฐานหลวงจึงสามารถแก้นิวรณ์ 5 ของผมได้
การที่พระกรรมฐานหลวงสามารถแก้นิวรณ์ 5 ของผมได้ ก็เพราะการเรียนพระกรรมฐานหลวงกับแม่ชีพิมพา ทำให้ผมสามารถพบคำตอบที่สงสัยมาเป็นเวลายาวนาน ดังได้กล่าวมาแล้วในหัวข้อที่ 2 ดังผมจะเล่าให้ท่านทราบดังนี้
นอกจากผมแล้ว ได้มีคนสนใจไปฝึกพระกรรมฐานหลวง ณ กุฏิประชาชื่น วัดกำแพง ราว ๆ 8-10 คน มีทุกเพศ ทุกวัย รวมทั้งมีพระภิกษุไปร่วมฝึกด้วย โดยผมได้ใช้เวลาอยู่ 6 วันเต็ม ในการเรียนพระกรรมฐานหลวงกับแม่ชีพิมพา จึงเรียนจบหลักสูตรพระกรรมฐานหลวงทุกประการ ส่วนวิธีการฝึกก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก พอจะสรุปได้ดังนี้
4.1 ให้นั่งสมาธิโดยไม่ต้องมีการสวดมนต์ และไม่ต้องมีคำบริกรรมใด ๆ เพียงแต่ใช้จิตเพ่งตรงกลางระหว่างคิ้วไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับสมเด็จโตพรหมรังสี
ในระหว่างเพ่งจิตไว้ตรงกลางระหว่างคิ้วไปเรื่อย ๆ แม่ชีพิมพาก็จะถามว่า เห็นนิมิตอะไรบ้าง เมื่อเราตอบไปว่าเห็นอะไร แม่ชีพิมพาก็จะบอกว่า นิมิตที่เราเห็นนั้น หมายความว่าอย่างไร ซึ่งทำให้ผมหายข้องใจในสิ่งที่เคยสงสัยมายาวนาน ดังได้กล่าวมาแล้วในหัวข้อที่ 2
การเห็นนิมิตในขณะนั่งสมาธินั้น เป็นนิมิตที่เกิดขึ้นมาเอง ไม่ใช่เป็นภาพที่เราคิดจะสร้างขึ้นมา
4.2 นั่งสมาธิรอบหนึ่งประมาณยี่สิบนาที
การนั่งสมาธิรอบหนึ่งใช้เวลาราวยี่สิบนาที หลังจากนั้นก็ให้พักผ่อนตามสบาย และเมื่อรู้สึกผ่อนคลายอิริยาบถพอสมควรแล้ว ก็ให้นั่งสมาธิทำความเพียรต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมืดค่ำ และได้เวลาเดินทางกลับ
4.3 การนั่งสมาธิแต่ละรอบ ได้ส่งผลต่อความก้าวหน้าในการฝึกพระกรรมฐานหลวงของเรา
ในการนั่งสมาธิแต่ละรอบ แม่ชีจะถามลูกศิษย์เป็นรายบุคคลว่าเห็นอะไรบ้าง พร้อมกับอธิบายว่าสิ่งที่เห็นคืออะไร และให้อธิษฐานจิตอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ศัตรูหมู่มารทุกภพทุกชาติ เป็นการลดวิบากกรรมของเราให้เหลือน้อยลง
ด้วยข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น ผมจึงกล้ายืนยันว่า นิวรณ์ ของผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อสงสัยเกี่ยวกับหลักธรรมคำสอนต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้าที่คนทั่วไปมักจะสงสัยกันว่า มีอยู่จริงหรือไม่ ได้หมดสิ้นไปจากผมแล้ว นับตั้งแต่วันที่ได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์แม่ชีพิมพา อุ้มบุญ เมื่อเดือนกันยายน 2534 เพราะผมได้ประจักษ์ด้วยตาและจิตของตนเองในสิ่งที่เคยสงสัยมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

ความจริง สิ่งที่ผมได้พบได้เห็นจากการเรียนพระกรรมฐานหลวงกับแม่ชีพิมพา มีอยู่หลายอย่าง แต่ผมไม่อาจจะนำมาเล่าให้ท่านทราบได้ เพราะดูจะเป็นการอวดอ้างมากจนเกินไป
5.สรุป
อุปสรรคสำคัญที่ทำให้การนั่งสมาธิหรือนั่งกรรมฐานไม่ก้าวหน้าก็เพราะมีนิวรณ์ 5 เป็นอุปสรรคขวางกั้น ซึ่งการจะทำให้เราก้าวพ้นนิวรณ์ 5 ได้ เราจะต้องประจักษ์หรือรู้ด้วยตนเอง แต่มิได้หมายความว่า ไม่ต้องมีครูอาจารย์สอน
การมีครูอาจารย์ที่รู้จริงสอนก็เปรียบเสมือนการเดินทางจากเอเชียไปยุโรป ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางอ้อมแหลมกู๊ดโฮปที่ปลายทวีปอาฟริกาเหมือนในอดีต แต่เราสามารถเดินทางผ่านคลองสุเอชลัดตรงไปยังยุโรปได้เลย ดังนั้น การที่ผมมีอุบาสิกาหรือแม่ชีพิมพา เป็นครูอาจารย์สอนการนั่งพระกรรมฐานหลวง จึงทำให้ผมสามารถยกระดับจิตเข้าสู่ฌานได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกอยู่เป็นเวลายาวนาน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความท้อถอยและละความเพียรไปก่อนที่จะประสบความสำเร็จ
สำหรับความคิดเห็นเพิ่มเติม กรุณาติดตามได้ในหัวข้อ คุยกับดร.ชา ท้ายบทความนี้
คุยกับ ดร.ชา
คู่สนทนาธรรมของผมในวันนี้ อาจจะดูแปลกกว่าทุกครั้ง เพราะเชาไม่ต้องการแสดงชื่อ แม้แต่ชื่อสมมุติ แต่อย่างไรก็ดี ผมขอเรียกชื่อเขาว่า คุณนิรนาม
คุณนิรนาม เป็นบุคคลหมายเลข 7 ซึ่งตามประสบการณ์ของผมพบว่า บุคคลหมายเลขนี้ เป็นคนที่ชอบความเป็นอิสระ มีความเป็นตัวเองตัวเอง มีหลักปรัชญาในการดำเนินชีวิต และมีความรู้ความสามารถในการศึกษาเรื้องลี้ลับได้ดี
“สวัสดีครับ คุณนิรนาม ผมรู้สึกยินดีมาก ที่คุณนิรนามกรุณาให้เกียรติ สละเวลามา สนทนาธรรมกับผม ซึ่งอาจพอจะเป็นข้อคิด ข้อเตือนใจแก่ท่านผู้อ่านได้บ้าง ” ผมทักทายด้วยความรู้สึกยินดี
“ สวัสดีครับ ดร.ชา ผมเองก็รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ ดร.ชา กรุณาเชิญผมมาสนทนาธรรมในวันนี้ แต่ผมขอเป็นฝ่ายตั้งประเด็นคำถามนะ ” คุณนิรนามทักทายตอบพร้อมกับกำหนดเงื่อนไขในการสนทนากัน
“ ได้เลย คุณนิรนาม ” ผมตอบรับข้อเสนอด้วยความยินดี
“ถ้าเช่นนั้น ผมขอถามประเด็นแรกเลยว่า การที่ดร.ชาได้ตัดสินใจไปเรียนพระกรรมฐานหลวง กับแม่ชีพิมพา อุ้มบุญ เมื่อเดือนกันยายน 2534 นั้น ดร.ชามีความคิดในใจอย่างไร ” คุณนิรนามตั้งคำถามอย่างตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม
“ อ๋อ ก็ไม่มีอะไรมาก แม้ผมจะได้เริ่มฝึกการนั่งสมาธิมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2523 ณ ห้องพักโรงแรมภูทอง อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ในขณะที่ได้รับแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งปลัดอำเภออาวุโส อำเภอภูเขียว แต่ผมยังไม่เคยมีครูบาอาจารย์สอนการนั่งสมาธิหรือการนั่งวิปัสสนากรรมฐานโดยตรงเลย คงได้แต่อาศัยตำราของครูบาอาจารย์ที่ท่านได้เขียนไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนังสืออานาปานสติของหลวงพ่อพุทธทาส และหนังสือแว่นส่องธรรมของหลวงตามหาบัว
ดังนั้น เวลาผมมีข้อสงสัยต่าง ๆ นานา ผมก็เลยไม่ทราบจะถามใครดี จึงจะได้คำตอบที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ ” ผมตอบกว้าง ๆ
“ ถ้าเช่นนั้น ผมขอถามประเด็นที่สองเลยว่า ทำไมดร.ชาจึงกล่าวว่า พอได้เรียนพระกรรมฐานหลวงกับแม่ชีพิมพาเพียงแค่ 6 วัน ดร.ชา ก็หมดข้อสงสัยในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าที่คนทั่ว ๆ ไป เขาสงสัยกัน ” คุณนิรนามถามเจาะลึกเข้าไปอีก
“ ที่ว่า หมดข้อสงสัยดังกล่าว มิใช่หมายถึงการบรรลุอรหันต์นะ คุณนิรนาม ผมยังปุถุชนอยู่ แต่ผมหมายถึงหมดข้อสงสัยเกี่ยวกับ บาปบุญ โลกนี้โลกหน้า เทพ พรหม พระอริยบุคคล ในทำนองนี้ว่า มีจริงหรือไม่ เพราะถ้าผมยังสงสัยในคำถามพวกนี้อยู่ การปฏิบัติธรรมของผมก็จะไม่ก้าวหน้า ติดหล่มอยู่แต่ในคำถามเหล่านั้น กลับไปกลับมา ไม่จบสิ้น
การที่ผมหมดข้อสงสัยดังกล่าวได้ ก็เพราะการฝึกพระกรรมฐานหลวงกับแม่ชีพิมพา ทำให้ผมได้รับคำตอบด้วยตัวเอง ส่วนตัวแม่ชีพิมพา เพียงแต่อธิบายให้ผมทราบว่า สิ่งที่ผมเห็นนั้นคืออะไร ” ผมตอบในเชิงภาพรวม มิได้เจาะจงในรายละเอียด
“ ผมคิดว่า คำตอบของดร.ชา แม้จะไม่ละเอียดนัก ซึ่งผมก็เข้าใจว่า ดร.ชาคงไม่อยากให้ใครกล่าวหาว่า คุยโม้หรือโอ้อวด แต่ก็น่าพอจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านบ้างตามสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการมีครูอาจารย์ที่รู้จริงคอยสอนหรือชี้แนะ
ผมหมดประเด็นจะถามแล้ว ขอขอบคณดร.ชา มาก สวัสดีครับ ” คุณนิรนามกล่าวขอบคุณและขอยุติการสนทนาธรรม
“ ขอบคุณมาก คุณนิรนาม ที่กรุณาสละเวลามาสนทนาธรรมกับผมในวันนี้ ” ผมกล่าวขอบคุณเช่นเดียวกัน
“ ขออุทิศส่วนกุศลที่เกิดจากการเขียนบทความนี้เป็นธรรมทาน แด่ แม่ชีพิมพา อุ้มบุญ แห่งกุฏิประชาชื่น วัดกำแพง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ผู้เป็นครูอาจารย์สอนพระกรรมฐานหลวงแก่ผม ”
ดร.ชา
16/10/20
ขอบคุณอาจารย์ที่มาให้ความรู้ในวันนี้ค่ะ หนูเคยถูกเพื่อนหลอกให้ไปดูหมอกับคนตอบคำถามในหนังสือโลกทิพย์ ปลอม แอบอ้าง ปัจจุบันนี้ปิดทุกช่องทางแล้วค่ะ อวดอุตริ ตนเองสามารถ เหาะ เดินบนอากาศได้ มีแต่จ่ายเงินให้พวกเค้าไม่ช่วยให้เราพ้นทุกข์ จากความไม่สบายใจค่ะ
ถ้ฟังดูแล้ว เห็นว่าท่าไม่ดี ก็ต้องตรวจสอบข้อมูลก่อนการตัดสินใจ จะไม่ถูกเขาหลอก เว้นแต่ว่า รู้ว่าเขาหลอก แต่ก็ยังเต็มใจให้หลอก ก็คงเป็นีอกีอเรืื่องหนึ่ง
อาจารย์นั่งกรรมมฐาน จึงประสบผลสำเร็จในชีวิต ยกตัวอย่าง ด้านการงาน ค่ะ
ความสำเร็จและความเจริญก้าวหน้าในชีวิตของบุคคลขึ้นอยู่่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความรู้ความสามารถ โอกาส ความขยันหมั่นเพียร บุญวาสนาหรือทุนเดิม เป็นต้น
การนั่งกรรมฐานเป็นส่วนหนึ่งที่อาจทำให้ชีวิตเจริญก้าวหน้าได้ เพราะเป็นการเติมบุุญให้แก่ชีวิตของเรา และเป็นการลดวิบากกรรมหรือผลแห่งกรรมที่ไม่ดีให้น้อยลง
อาจารย์รู้จักวัดหงส์ อดีต สองผู้บังคับบัญชาการเลือกบวชไหมคะ หนูเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกค่ะ
ขอบคุณค่ะ
พอจะรู้บ้าง อยู่ติดวัดอรุณ ฯ เป็นวัดที่พระเจ้าตากสินเคยมานั่งสมาธิวิปัสนาบ่อย ๆ พวกนายทหาร ตำรวจใหญ่ นิยมมา