ผู้ว่าราชการจังหวัด ยากนะที่จะได้เป็น (9)(New***)
โปรดอย่าเข้าใจผิดคิดว่า อยากจะแต่งตั้งใครเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้
ได้ข้อคิดด้านบวก
โปรดอย่าเข้าใจผิดคิดว่า อยากจะแต่งตั้งใครเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้
หากเป็นการสู้รบ นายอำเภอ คือทัพหน้า แพ้ชนะอยู่ที่ทัพหน้าเป็นสำคัญ
การเข้าสู่อาชีพนักปกครองของผม ก็ด้วยภูมิหลัง และแรงบันดาลใจ 4 ประการ คือ นักปกครองคนแรกที่ผมรู้จัก ผู้ว่า ฯ ในดวงใจ นายอำเภอผู้น่าเกรงขาม และคำพยากรณ์ของโหราจารย์ ในตอน (4) นี้ จะขอเล่าถึงคำพยากรณ์ของโหราจารย์ ในการเล่าเรื่องราวคำพยากรณ์ของโหราจารย์นี้ จะกล่าวถึง โหราศาสตร์กับสังคมไทย คำพยากรณ์ของโหราจารย์ คำพยากรณ์ของโหราจารย์กับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ผลของคำพยากรณ์ สรุปและข้อคิดเห็น 1.โหราศาสตร์กับสังคมไทย ตามความจริงมนุษย์ทุกชาติทุกภาษาล้วนแต่มีความเชื่อในเรื่องการทำนายอนาคตหรือโชคชะตามาตั้งแต่โบราณกาลด้วยกันทั้งนั้น รวมทั้งสังคมไทย สังคมไทยก็เช่นเดียวกัน มีความเชื่อทางด้านโหราศาสตร์และการทำนายโชคชะตามาเป็นเวลาช้านานแล้ว ดังจะเห็นได้จากมีตำแหน่งโหรหลวงในราชสำนักมาตั้งแต่โบราณกาล ปัญหาคือทำไมต้องมีโหรหลวง ผมคิดว่า คำตอบสั้น ๆ ก็คือ เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่อยากจะทราบว่าในอนาคตข้างหน้าชีวิตของบุคคลจะเป็นอย่างไร หากเป็นพระมหากษัตริย์ย่อมอยากจะทราบเหตุการณ์บ้านเมืองในวันข้างหน้าจะมีเรื่องดีหรือเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นบ้าง หากเป็นเรื่องร้ายก็จะได้หาทางป้องกัน หากเป็นเรื่องดี ก็จะได้เตรียมตัวให้พร้อมที่จะดำเนินการ เช่น การหาฤกษ์หายามที่เป็นอุดมมงคลเพื่อประกอบกิจการนั้น ๆ…
การเข้าสู่อาชีพนักปกครองของผม ก็ด้วยภูมิหลัง และแรงบันดาลใจ 4 ประการ คือ นักปกครองคนแรกที่ผมรู้จัก ผู้ว่า ฯ ในดวงใจ นายอำเภอผู้น่าเกรงขาม และคำพยากรณ์ของโหราจารย์ อนึ่งใน บทความ (2) ผมได้เล่าเรื่อง แรงบันดาลใจ ทีเกิดจากผู้ว่า ฯ ในดวงใจ สำรับตอน (3) เรื่องราวของนายอำเภอผู้น่าเกรงขาม ประกอบด้วย การย้ายครอบครัวตามบิดามารดา การศึกษาอบรมที่อำเภอจัตุรัส นายอำเภอผู้น่าเกรงขาม นายอำเภอกับอำนาจในการสอบสวนคดีอาญา อาคารทีว่าการอำเภอกับความน่าเกรงขามของนายอำเภอ นายอำเภอกับการแสดงบทบาทภาวะผู้นำในด้านต่าง ๆ และสรุปและข้อคิดเห็น 1.การย้ายติดตามบิดามารดา ผมได้เล่าให้ท่านฟังแล้วว่า คุณพ่อผมรับราชการกรมสรรพสามิต ไต่เต้าจากเสมียน พอสอบเลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่งได้เป็นสรรพมาสามิตอำเภอ กรมสรรพสามิตได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นสรรพสามิตอำเภอตรี อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ เมื่อปี พ.ศ.2501 …
การเข้าสู่อาชีพนักปกครองของผม ก็ด้วยภูมิหลัง และแรงบันดาลใจ 4 ประการ คือ นักปกครองคนแรกที่ผมรู้จัก ผู้ว่า ฯ ในดวงใจ นายอำเภอผู้น่าเกรงขาม และคำพยากรณ์ของโหราจารย์ ในตอน (2) นี้ จะขอเล่าถึงแรงบันดาลใจ:ผู้ว่า ฯ ในดวงใจ การสร้างอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล และการจัดงานการแสดงของช้างจังหวัดชัยภูมิ อนึ่งในบทความ (1) ผมได้กล่าวถึงนักปกครองคนแรกที่ผมรู้จักที่เป็น แรงบันดาลใจ ให้ผม 1.แรงบันดาลใจ: ผู้ว่า ฯ ในดวงใจ นักปกครองคนที่ 2 ที่อยู่ในดวงใจของผมตลอดมา คือ นายช่วย นนทะนาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ คนที่ 34 ดำรงตำแหน่ง พ.ศ.2504-2511 รวมระยะเวลายาวนานถึง 7 ปี ซึ่งนับได้ว่าเป็นการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดเดียวกันที่ยาวนานมาก…
การเข้าสู่อาชีพนักปกครองของผม ก็ด้วยภูมิหลัง และแรงบันดาลใจ 4 ประการ คือ นักปกครองคนแรกที่ผมรู้จัก ผู้ว่า ฯ ในดวงใจ นายอำเภอผู้น่าเกรงขาม และคำพยากรณ์ของโหราจารย์ สำหรับ ตอน (1) นี้ จะขอเล่าถึงภูมิหลัง และนักปกครองคนแรกที่ผมรู้จัก 1.ภูมิหลัง ตระกูลของผม ในชั้นคุณปู่ คุณย่า ถอยหลังลงไปเป็นชาวนา แต่พอรุ่นคุณพ่อของผม ได้เริ่มผันตัวเข้าสู่อาชีพรับราชการ โดยคุณพ่อของผมได้เริ่มต้นด้วยการเป็นเสมียนของกรมสรรพสามิต ต่อมาก็ได้เจริญก้าวหน้าขึ้นไปตามระบบราชการ ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นสรรพสามิตอำเภอ และได้เกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้ช่วยสรรพสามิตจังหวัด ส่วนคุณแม่ของผม ในชั้นคุณตา เริ่มเข้าสู่อาชีพรับราชการเป็นครูประชาบาล เช่นเดียวกับคุณแม่ของผมที่ได้เจริญรอยตามคุณตาด้วยการประกอบอาชีพเป็นครูประชาบาลจนกระทั่งเกษียณอายุราชการ เมื่อเกิดมา ผมจึงได้ชื่อว่า อยู่ในครอบครัวของข้าราชการ ซึ่งเท่ากับเป็นการฝังลึกลงไปในจิตใต้สำนึกว่า เมื่อโตขึ้นผมคงจะต้องรับราชการเหมือนคุณพ่อคุณแม่ ส่วนจะเป็นอาชีพรับราชการสังกัดใดนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมต่างจังหวัดหรือสังคมชนบทในยุคสมัยนั้น ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ผ่านมาเกือบ 70…
บทความที่แล้ว (2) ผมได้เล่าถึงประสบการณ์ ในการสอบเข้ารับราชการเป็นปลัดอำเภอ ในบทคววาม (3) นี้ ผมจะเล่าถึงความเจริญก้าวหน้าของอาชีพปลัดอำเภอว่าไปได้ไกลแค่ไหน ความเจริญก้าวหน้าของอาชีพปลัดอำเภอสามารถก้าวขึ้นไปถึงตำแหน่งปลัดอำเภออาวุโสหรือตำแหน่งเทียบเท่า คือ จ่าจังหวัด และป้องกันจังหวัด โดยจะขอเล่าเป็น ๓ ยุค คือ ยุคระบบชั้นยศ ยุคระบบพี.ซี. และยุคระบบแท่ง รวมทั้งเงินเพิ่มพิเศษตำแหน่งปลัดอำเภอ หรือพ.ป.ค. ๑.ความเจริญก้าวหน้ายุคระบบชั้นยศ ในยุคระบบชั้นยศ ความเจริญก้าวหน้าของปลัดอำเภอ สามารถสอบเลื่อนชั้นตำแหน่งจากตำแหน่งปลัดอำเภอตรี ขึ้นเป็นปลัดอำเภอโท หากสอบเลื่อนชั้นขึ้นเป็นปลัดอำเภอโทได้ เครื่องหมายประดับขีด จะเป็นสองขีดใหญ่ ปลัดอำเภอโท จะได้รับแต่งตั้งจากนายอำเภอให้เป็นปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายปกครองและพัฒนา และได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาราชการแทนนายอำเภอลำดับแรก จึงเรียกปลัดอำเภอโทอีกอย่างหนึ่งว่า ปลัดอำเภออาวุโส อย่างไรก็ดี ปลัดอำเภอโทในอำเภอหนึ่ง อาจไม่ได้มีอยู่คนเดียว อาจมี ๒-๓ คนก็ได้ กล่าวคือ อาจมีปลัดอำเภอโทหน้าฝ่ายทะเบียนและบัตร และปลัดอำเภอโทฝ่ายความมั่นคง…
ในบทความที่แล้ว (1) ผมได้เล่าว่า อาชีพนักปกครองเริ่มต้นด้วยตำแหน่งปลัดอำเภอ สำหรับบทความ (2) นี้ ผมจะเล่าถึงประสบการณ์และความประทับใจในการสอบเข้ารับราชการเป็นปลัดอำเภอ โดยผมได้สอบแข่งขันเข้ารับราชการเป็นปลัดอำเภอตรี เมื่อปีพ.ศ.๒๕๑๗ ซึ่งนับเป็นยุคสุดท้ายของระบบราชการพลเรือนแบบชั้นยศของประเทศไทย ผมขอย้อนอดีตเล่าเรื่องให้ท่านผู้อ่านฟังเกี่ยวกับประสบการณ์ของผมในการสอบเข้ารับราชการเป็นปลัดอำเภอ ซึ่งได้แก่คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครสอบ จำนวนผู้สมัครสอบ หลักสูตรการสอบ การเตรียมตัวสอบ ผลของการสอบ และความประทับใจในการสอบแข่งขันเป็นปลัดอำเภอ ๑.คุณสมบัติของผู้มีสมัครสอบ ผู้ที่จะสมัครสอบแข่งขันเข้ารับราชการเป็นปลัดอำเภอตรี เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๗ นอกจากจะต้องมีคุณวุฒิจบปริญญาตรีทางรัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ และนิติศาสตร์แล้ว จะต้องเป็นเพศชายเท่านั้น หลายท่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ผมขอเฉลยว่า ในยุคนั้น ชายหญิง ยังไม่มีสิทธิเท่าเทียมกัน โดยชายมีสิทธิเหนือว่าหญิง กล่าวคือ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และตามกฎหมายว่าด้วยชื่อบุคคลในขณะนั้น สามีเป็นหัวหน้าครอบครัว สามีเป็นผู้เลือกถิ่นที่อยู่ ภริยาต้องใช้นามสกุลของสามี บุตรต้องใช้นามสกุลของบิดา และหญิงมีสามีต้องใช้คำนำหน้าชื่อว่า นาง จะใช้คำว่า…
หากท่านต้องการมีอาชีพเป็นนักปกครอง ต้องเริ่มต้นด้วยการสอบแข่งขันเข้ารับราชการเป็นนักปกครอง ในตำแหน่งปลัดอำเภอ (Assistant chief district officer) โดยผมจะขอแบ่งปลัดอำเภอออกเป็น ๓ ยุค คือ ปลัดอำเภอยุคระบบชั้นยศ ปลัดอำเภอยุคระบบพี.ซี. และปลัดอำเภอยุคปัจจุบันคือยุคระบบแท่ง ชีวิตราชการของผมเริ่มต้นด้วยตำแหน่งปลัดอำเภอยุคระบบชั้นยศ ๑.ปลัดอำเภอในยุคระบบชั้นยศ ระบบการบริหารงานบุคคลของข้าราชการพลเรือนไทยในช่วงก่อนปี พ.ศ.๒๕๑๘ เป็นระบบชั้นยศในทำนองเดียวกับระบบทหารและตำรวจ โดยแบ่งข้าราชการพลเรือนออกเป็น ๕ ชั้น คือ ชั้นจัตวา ชั้นตรี ชั้นโท ชั้นเอก และชั้นพิเศษ ภายใต้ระบบชั้นยศ ปลัดอำเภอเป็นตำแหน่งที่เริ่มต้นด้วยชั้นตรี อย่างทีเรียกว่าปลัดอำเภอตรี การแต่งเครื่องแบบประดับเครื่องหมาย ๑ ขีดใหญ่ ผู้ที่จะสมัครสอบเป็นปลัดอำเภอตรีได้ ต้องจบปริญญาตรีทางรัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ และนิติศาสตร์ ท่านเชื่อไหมว่า ปลัดอำเภอยุคนี้ ไม่มีคนสวยเลย มีแต่คนรูปหล่อ…