บทความ “แรงบันดาลใจ ความฝัน ความเพียรพยายาม และความสำเร็จ (1)” เป็นบทความนำของหมวด 11 ความฝันและความสำเร็จ ซึ่งเป็นหมวดเปิดขึ้นใหม่ในปี 2564 โดยจะกล่าวถึง ความนำ วัตถุประสงค์ แรงบันดาลใจ ความฝัน ความทะเยอทะยาน ความเพียรพยายาม ความสำเร็จ และสรุป
Table of Contents
1.ความนำ
เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2564 ผมได้อ่านข่าวการได้เลื่อนอันดับเป็นคนรวยที่สุดของโลกประจำปี 2564 ของ อิลอน มัสก์ (Ilon Musk) ประธานกรรมการบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้ง ๆ ที่เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 เขาเพิ่งได้ตำแหน่งคนรวยอันดับสองของโลก เวลาผ่านไปแค่หนึ่งเดือนเศษเท่านั้น เขาก็สามารถประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้ แสดงว่าเขาต้องมีแรงบันดาลใจและความใฝ่ฝันอันยิ่งใหญ่ และมีความเพียรพยายามอันยิ่งยวดเหนือกว่าบุคคลทั่วไปเป็นอันมาก
ด้วยความสำเร็จอันยิ่งใหญ่อย่างเหลือเชื่อของ อิลอน มัสก์ ดังกล่าง จึงทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมาทันทีว่า อยากจะค้นคว้าหาข้อมูลมาเขียนบทความเกี่ยวกับความสำเร็จของบุคคลผู้ประสบความสำเร็จอย่างสูงยิ่ง มาเล่าให้ท่านผู้อ่านทราบว่า การที่บุคคลเหล่านั้นประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่เกิดจากแรงบันดาลใจอะไร มีความใฝ่ฝันอะไร มีความเพียรพยายามมากน้อยเพียงใด เจอปัญหาอุปสรรคอะไร ก่อนจะประสบความสำเร็จตามความใฝ่ฝันที่วาดไว้ เผื่ออาจจะทำให้ท่านผู้อ่านเกิดข้อคิดดี ๆ และมีความมุมานะขึ้นมาเพื่อไปสู่ความสำเร็จตามความมุ่งหวังที่ท่านวาดได้บ้าง
ผมเชื่อว่า หลายคนอยากจะประสบความสำเร็จ แต่ถ้าขาดแรงบันดาลใจ ความใฝ่ฝัน ความทะเยอทะยาน และความเพียรพยายามที่มากพอ ความสำเร็จจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน
การเขียนบทความหมวดนี้ ถือว่าสอดคล้องกับการเปลี่ยนชื่อหัวข้อเว็บของผมจากเดิม “ รวมเรื่องเล่า ชุดประสบการณ์นักปกครอง สนุก และสร้างสรรค์ ” มาเป็น “ เรื่องเล่า ดร.ชา สนุก และสร้างสรรค์ ” ที่ต้องการขยายขอบเขตและวัตถุประสงค์ของการเขียนบทความให้กว้างไกลออกไปในหลายมิติเท่าที่ผมจะทำได้ตามพื้นฐานความรู้และประสบการณ์ของผม โดยไม่จำกัดอยู่เฉพาะประสบการณ์นักปกครองเท่านั้น
2. วัตถุประสงค์ของการเขียนบทความหมวดนี้
การเขียนบทความหมวด เรื่องเล่า ความฝัน และความสำเร็จ มีวัตถุประสงค์หลัก ดังนี้
2.1 เพื่อนำเสนอประวัติของบุคคลผู้ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงในด้านต่าง ๆ เพื่อให้ผู้อ่านเกิดแรงบันดาลใจอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิตบ้าง
ผู้ประสบความสำเร็จที่จะนำประวัติมาเล่า อาจเป็นคนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ระดับภูมิภาค ระดับประเทศ หรือระดับท้องถิ่น เท่าที่พอจะหาข้อมูลมาเล่าได้
2.2 เพื่อนำเสนอแรงบันดาลใจ ความมุ่งหวัง แนวคิด และเคล็ดลับของบุคคลดังกล่าว
2.3 เพื่อเป็นแนวคิดเบื้องต้นแก่ผู้ที่ต้องการจะพัฒนาตนเอง (Self-development) ไปสู่ความสำเร็จในอนาคต
3. แรงบันดาลใจ (Aspiration)
3.1 แรงบันดาลใจ เป็นความคิดด้านบวก
แรงบันดาลใจ หมายถึง การที่เราได้พบ ได้เห็น หรือได้ยิน ได้ฟัง เรื่องราว หรือการกระทำของบุคคลหรือเหตุการณ์บางอย่าง แล้วเกิดความรู้สึกประทับใจหรือความคิดบวกในเรื่องราว หรือการกระทำของบุคคล หรือเหตุการณ์นั้น ทำให้อยากเป็น อยากเห็น หรืออยากได้ในสิ่งที่เราได้ยินได้ฟังหรือได้เห็นมา
ตัวอย่าง
ในวัยเด็ก หากมีใครถามว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร เด็กก็คงตอบไปต่าง ๆ นานาตามความรู้สึกที่เกิดขึ้นในเวลานั้น เช่น
เด็กบางคนอยากเป็นหมอ เพราะเห็นว่า หมอเป็นผู้ที่รักษาคนเจ็บคนป่วย ช่วยชีวิตคน
เด็กบางคนอยากเป็นครู เพราะเห็นว่า ครูเป็นคนให้ความรู้ ให้ความใกล้ชิดรองลงมาจากพ่อแม่
เด็กบางคนอยากเป็นทหารหรือตำรวจ เพราะเห็นว่า ใส่เครื่องแบบดูสง่าน่าเกรงขาม
ฯลฯ
แต่เมื่อโตขึ้น ความรู้สึกอยากเป็น อยากเห็น อยากได้ ของคนเราก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปตามวัยและตามภาวะแวดล้อม
3.2 แรงบันดาลใจ เป็นจุดเริ่มต้นของความใฝ่ฝัน
การที่คนเราเกิดความประทับใจในเรื่องราว การกระทำของบุคคล หรือเหตุการณ์บางอย่าง แล้วเกิดความคิดอยากเป็น อยากเห็น แม้ว่าในขณะที่เกิดความรู้สึกอยากเห็นอยากเป็นนั้น ความเป็นไปได้อาจจะยังไม่มีเลย อย่างนี้เรียกว่า แรงบันดาบใจเป็นเริ่มต้นของความใฝ่ฝัน
ตัวอย่าง เด็กได้ดูข่าวกีฬาทางทีวีเห็นการแข่งขันกอล์ฟระดับโลก เกิดความประทับใจจีง อยากจะเป็นนักกอล์ฟระดับโลกขึ้นมา แม้ในขณะนั้น เด็กคนนั้นยังไม่รู้จักกีฬากอล์ฟเลยว่า เป็นอย่างไร
เคยมีข่าวว่า ทายาทเศรษฐีแสนล้าน มองเห็นพระภิกษุวัดป่าออกบิณฑบาตด้วยอาการสำรวม เกิดความเลื่อมใส ทำให้อยากออกบวชเพื่อแสวงหาความสงบสุขที่แท้จริง โดยไม่อาลัยอาวรณ์การเป็นทายาทเศรษฐีแสนล้านแม้แต่น้อย
4.ความใฝ่ฝัน (Dream)
4.1 ความใฝ่ฝัน คืออะไร
เมื่อเราได้พบได้เห็นบางคน บางสิ่งบางอย่าง เกิดความรู้สึกประทับใจ ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ แล้วเก็บแรงบันดาลใจนั้น มาเป็นความใฝ่ฝันของตน ดังนั้น แรงบันดาลใจกับความใฝ่ฝันจึงมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
ความใฝ่ฝันในที่นี้ จึงหมายถึง การเอาแรงบันดาลมาเปลี่ยนเป็นความต้องการที่จะได้ หรือที่จะเป็นในอนาคต
4.2 ความใฝ่ฝันมีหลายขนาด

ความใฝ่ฝันของคนเรามีหลายขนาด บางคนชอบความใฝ่ฝันเล็ก ๆ บางคนชอบความใฝ่ฝันขนาดกลาง ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ บางคนชอบความใฝ่ฝันใหญ่ ๆ อย่างคำกล่าวที่ว่า ฝันให้ไกล ไปให้ถึง
ส่วนใครจะมีความใฝ่ฝันขนาดใด ถือเป็นเรื่องความทะเยอทะยานของบุคคล
4.3 ความใฝ่ฝัน คือ การให้กำลังใจตนเอง
เมื่อคนเรามีความฝัน แสดงว่ายังมีความหวัง เช่น คนที่ชอบเสี่ยงโชคด้วยการซื้อลอตเตอรี่อยู่เป็นประจำ โดยหวังว่า วันหนึ่งจะโชคดีถูกรางวัลใหญ่กับเขาบ้าง
ตราบใดที่ยังมีความใฝ่ฝันอยู่ ย่อมแสดงว่า เรายังมีกำลังใจที่ดี ยังรอวันที่จะประสบความสำเร็จ ดังนั้น เกิดเป็นคนอย่าสิ้นหวังอะไรง่าย ๆ ถ้ายังไม่ได้เพียรพยายามจนถึงที่สุด
“ ต้องมีสักวันที่เราจะสมหวังกับเขาบ้าง”
5. ความทะเยอทะยาน (Ambition)

เมื่อมีความใฝ่ฝันว่า อยากเป็น อยากเห็น หรืออยากได้อะไรในอนาคตแล้ว หากปราศจากความทะเยอทะยาน ความใฝ่ฝันนั้นก็อาจจะกลายเป็นแค่ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ไม่มีทางที่จะสำเร็จได้
ความทะเยอทะยาน คือ ความอยากจะประสบความสำเร็จ หรือเจริญก้าวหน้าเหนือกว่าพื้นฐานเดิมของตนเป็นอย่างมาก หากมองผิวเผินก็เสมือนหนึ่งว่า ความอยากจะประสบความสำเร็จนั้นไม่น่าจะทำได้เลย เพราะอยู่ไกลแสนไกลจากความเป็นไปได้สำหรับบุคคลนั้น ณ เวลานั้น
ตัวอย่าง
ความคิดที่จะให้มนุษย์ไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร น่าจะเป็นเรื่องสุดวิสัยที่มนุษย์จะทำได้ เพราะดาวอังคารอยู่ไกลจากโลกมาก สภาพแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศก็แตกต่างกันมาก
แม้ฟังดูแล้ว การสร้างความใฝ่ฝันว่า วันหนึ่งมนุษย์จะสามารถไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคารได้เป็นเรื่องเหลือเชื่อหรือเหลือวิสัย แต่เวลานี้ก็มีคนคิดเช่นนี้อยู่จริง ๆ และพยายามจะทำความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นจริง
แต่ถ้าตั้งความมุ่งหวังไว้แค่จะพามนุษย์ไปท่องอวกาศ ในยุคปัจจุบันนี้ ไม่ถือเป็นสิ่งเหลือวิสัยแล้ว มีความเป็นไปได้มาก
6. ความมุ่งมั่น และความเพียรพยายาม
แม้มีความทะเยอทะยาน ความสำเร็จก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ หากปราศจากความมุ่งมุ่น และความเพียรพยายาม

6.1 ความมุ่งมั่น
ความมุ่งมั่น หมายถึง ความตั้งใจอย่างแรงกล้าและไม่ย่อหย่อนที่จะไปสู่ความใฝ่ฝันที่ได้วาดไว้ให้ได้ แม้จะมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้นมากเพียงใดก็ตาม
6.2 ความเพียรพยายาม
ความเพียรพยายามกับความมุ่นมั่นเป็นของคู่กัน เมื่อมีความมุ่งมั่นที่จะเดินไปหาความมสำเร็จให้ได้ ก็จำเป็นต้องมีความเพียรพยายาม ไม่ละความเพียร ดังพุทธภาษิตที่ว่า
“มนุษย์พ้นทุกข์ได้เพราะความเพียร”
เบื้องหลังของผู้ประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง ล้วนเกิดจากความเพียรพยายามทั้งสิ้น แม้จะมีความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า หากยังมีความมุ่งมั่น และความเพียรพยายามอยู่ ความสำเร็จย่อมเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน
7. ความสำเร็จ
การมีความมุ่งมั่นและความเพียรพยายาม ย่อมนำซึ่งความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จทางโลกหรือทางธรรม ย่อมต้องอาศัยความมุ่งมั่นและความเพียรพยายามทั้งสิ้น
ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่มากเท่าใดก็ตาม ก็ยิ่งต้องอาศัยความมุ่งมั่นและความเพียรพยายามมากเท่านั้น ไม่มีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อันใดที่จะได้มาโดยง่าย สมดังคำพระกล่าวว่า “ หากไม่มีมาร บารมีก็ไม่เกิด”หมายความว่า หากเผชิญปัญหาอุปสรรคใด ๆ ก็ให้คิดว่า นั่นคือสิ่งที่ทดสอบหรือท้าทายเราว่าจะเอาชนะได้หรือไม่ หากเอาชนะได้ ย่อมได้รับความสำเร็จ
ในทางตรงกันข้าม หากเอาชนะไม่ได้ เพราะเกิดความท้อถอยเสียก่อน ความสำเร็จย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ แต่จะกลายเป็นความล้มเหลวแทน
ตัวอย่าง
ประเทศญี่ปุ่นได้มีการปฏิรูป การเมือง การปกครอง ในยุคจักรพรรดิเมจิ ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ด้วยความมุ่งมั่น และความเพียรพยายาม ทำให้ญี่ปุ่นสามารถเอาชนะปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ จนทำให้ญี่ปุ่น ซึ่งเดิมมีสภาพเป็นประเทศเกษตรกรรมแบบโบราณที่ล้าหลัง แต่สามารถพลิกวิกฤตที่ถูกคุกคามโดยชาติมหาอำนาจตะวันตกให้เป็นโอกาส จนสามารถปฏิรูปประเทศในทุก ๆ ด้าน กลายเป็นประเทศสมัยใหม่ และเป็นประเทศอุตสาหกรรมประเทศแรกของเอเชียทัดเทียมมหาอำนาจตะวันตกได้ภายในเวลา 44 ปี ในยุคของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจินั่นเอง ซึ่งตรงกับยุครัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
นับว่า เป็นการปฏิรูปและพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า จากหน้ามือเป็นหลังมือได้อย่างมหัศจรรย์ภายในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียง 44 ปี
8.สรุป
ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ เริ่มต้นด้วยการมีแรงบันดาลใจ และนำแรงบันดาลใจนั้นมาเป็นความใฝ่ฝัน เมื่อมีความใฝ่ฝันแล้ว หากปราศจากความทะเยอทะยาน ความใฝ่ฝันนั้นก็จะเป็นได้แค่ความฝันลม ๆ แล้ง ๆ
แม้มีความทะเยอทะยาน แต่ถ้าขาดความมุ่งมั่นและความเพียรพยายาม ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้
การได้ยินได้ฟังหรือได้เห็นเรื่องราวของผู้ประสบความสำเร็จที่มีชื่อเสียง จะช่วยให้เราเกิดแรงบันดาลใจ และเกิดกำลังใจที่จะต่อสู้ บากบั่น มานะพยายามไปสู่จุดหมายหรือความใฝ่ฝันของเราในอนาคตได้
คนที่ไม่มีความใฝ่ฝัน ย่อมเปรียบเสมือนคนที่หมดไฟแล้ว และย่อมมีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ ไม่มีความหวังใด ๆ ในทางตรงกันข้าม หากผู้ใดยังมีความใฝ่ฝันอยู่ ย่อมแสดงว่า ผู้นั้นยังไม่หมดไฟ จะไม่ปล่อยให้ชีวิตผ่านไปวัน ๆ โดยไม่คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้น
หวังว่า บทความในหมวดนี้ คงจะมีส่วนสร้างแรงบันดาลใจ และความมุ่งหวังให้ท่านบ้าง ไม่มากก็น้อย
ทำไมต้องมีเป้าหมายในชีวิต เมื่อวัยเด็กครูเคยถามหนูว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร
หนูอยากเป็นนักการทูต ตอบแบบซื่อๆ ครูตะโกนขึ้นมาว่านำ้หน้าอย่างมึงเป็นไม่ได้
เพราะเป็นคนซื่อ ไม่สามารถนำพาประเทศให้รอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกาได้
ปมในใจอีกอย่างหนึ่งคือ หนูเคยเรียนในโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ แล้วทางโรงเรียนให้เขียนแสดงความคิดเห็น ครูประจำชั้นไม่เชื่อ มีพ่อ แม่เป็นชาวนา จบ ป 4 อ่าน ออก เขียนได้
ส่วนใหญ่แล้วจะมีแต่ลูกคนทำงานเป็น ครู ตำรวจ ทหาร
จึงทำให้หนูมีเป้าหมายในชีวิต มีวุฒิการศึกษา ถ้าใครมาพูดไม่ดีกับเรา สามารถฟ้องได้
จนหนูอายุ40ปี จึงมีเป้าหมาย อยากเป็นนักแปล ความฝันเปลี่ยนไปตามวัย
ขอบคุณ คุณณัชชาที่กรุณานำประสบการณ์ชีวิตมาเล่าให้ฟัง
ความคิดเที่2 หนูเคยไปทำงานกรุงเทพอยู่เยาวราชเป็นร้านขายอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในย่านนั้น
มีหนูคนเดียวที่มีวุฒิปริญญาตรี
เป็นเด็กต่างจังหวัด ไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน
เจ้านายถามว่ามาจากต่างจังหวัดรู้จักเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือดูถูกหลายด้าน เช่น ด้านโภชนาการ
ด้านความไม่เจริญเท่าเมืองหลวง
คนที่จบ ป6 ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่หนูคิดแล้วล่ะ เงินเดือนที่ได้รับแล้วแต่จะให้เพราะเป็นคนบ้านนอก ทำงานครบตามสัญญา จึงตัดสินใจกลับบ้าน พ่อ แม่ของหนูไม่มีเงินแล้วลูกยังตั้งตัวไม่ได้
เห็นครอบครัวอื่นไปกรุงเทพแล้วมีเงินเป็นหลักแสนกลับมาบ้าน ในความเป็นจริงแล้วเป็นการสร้างภาพ หนูได้รู้ว่าเจ้านายจะหาคู่ให้คนโสดเหตุผล คือ จะได้ทำงานให้เค้าจนกว่าจะปลดเกษียณ
และเงินเงินให้เงินน้อยๆ เพราะว่า จะได้เป็นหนี้สินเจ้านาย ไม่ให้เราตั้งตัวได้ ถ้าเราตั้งตัวได้จะไม่มีใครเป็นคนรับใช้พวกคนจีน เมื่อก่อนนี้ครอบครัวหนูไม่เชื่อ ครอบครัวมองว่าเราใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย
ปัจจุบันนี้เชื่อ เพราะคนที่เคยไปทำงานแล้วได้แลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นกัน
หนูจึงมีเป้าหมายในชีวิตว่า เราเป็นชาวนา เราไม่มีงานประจำทำเรามีวัตถุได้เหมือนกันแต่ช้ากว่าข้าราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
เป็นความคิดที่ดี ทุกอาชีพมีคนประสบความสำเร็จอยู่เสมอ ถ้ามีความมุ่งมั่น
ความคิดเห็นที่3 หนูได้อะไรจากการไปทำงานนอกพื้นที่ ได้ประสบการณ์ กลายเป็นคนฉลาดทันคนมากขึ้น กล้าพูด และ หนูภาคภูมิใจ เป็นลูกคนเล็ก เป็นชาวนาแต่ เมื่อพี่มีปัญหาในที่ทำงาน
หนูเป็นคนเข้าหาผู้ใหญ่ให้ช่วยเจรจา
ใช่ การที่เรามีประสบการณ์ในการทำงานที่อื่น ที่ไม่ใช่บ้านเกิด ถือเป็นกำไรชีวิตอย่างหนึ่ง จะทำให้เราเก่ง รู้ทันคน ให้คำแนะนำเพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้องได้
ผมคิดว่าแรงบันดาลใจในวัยเด็กมีความสำคัญมากครับอาจารย์ เมื่อครั้งเป็นนายอำเภอโนนคูณ ผมได้ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ คณะครู นายก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน จัดหาทุนการศึกษามอบให้กับนักเรียนในอำเภอและนำบุคคลในอาชีพต่างๆเช่น คุณหมอ ครู พยาบาล ตำรวจ ปลัดอำเภอ มาพูดเกี่ยวกับเส้นทางในอาชีพนั้นๆ เพื่อให้เด็กได้เห็นตัวอย่างและมุ่งมั่นตั้งใจเรียน เป็นเด็กดี เป็นพลเมืองดี และเป็นพลังในการพัฒนาประเทศชาติต่อไปครับ
อาจารย์เห็นด้วยกับท่านนายอำเภอภัทรนันท์ ขอขอบคุณที่กรุณาสละเวลาเข้ามามีส่วนร่วม ขอเชิญมีส่วนร่วมต่อไปเรื่อย ๆ นะท่านนายอำเภอ